วันศุกร์, มิถุนายน 11, 2564

Banthoeng

 
มีพระภาคเจ้าเถิด. ท่านพระนาคิตะ กล่าวว่า แน่ะสีหะ ถ้ากระนั้น
เธอนั่นแหละจงกราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าให้ทรงทราบเถิด. สามเณรสีหะ
รับคำท่านพระนาคิตะแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ถวายบังคมแล้ว
ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วกราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างนี้ว่า
พระพุทธเจ้าข้า พราหมณทูตชาวโกศลและพราหมณทูตชาวมคธเป็นอันมาก
เหล่านี้ ได้เข้ามาในที่นี้เพื่อเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า แม้เจ้าลิจฉวีนามว่า
โอฏฐัทธะ พร้อมด้วยลิจฉวีบริวารอันใหญ่ ได้เข้ามาในที่นี้ เพื่อเฝ้าพระผู้มี
พระภาคเจ้า พระพุทธเจ้าข้า จะเป็นการดี ขอหมู่ชนนี้จงได้เฝ้าพระผู้มีพระ
ภาคเจ้าเถิด. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า แน่ะสีหะ ถ้ากระนั้น เธอจงปูอาสนะ
ที่ร่มเงาหน้าวิหาร. สามเณรอาทิผิด สระสีหะรับพระพุทธาณัติแล้ว ได้ปูอาสนะ ณ ร่มเงา
หน้าพระวิหาร.พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จออกจากพระวิหาร ประทับนั่งบน
อาสนะที่สามเณรอาทิผิด สระสีหะปูไว้ ณ ร่มเงาหน้าพระวิหาร. ลำดับนั้น พราหมณ
ทูตชาวโกศลและพราหมณทูตชาวมคธเหล่านั้น เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค
เจ้า บันเทิงอาทิผิด สระกับพระผู้มีพระภาคเจ้า สนทนาพอเป็นที่ชื่นชมระลึกถึงกันแล้ว
จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.
[๒๔๓] แม้โอฏฐัทธลิจฉวี พร้อมด้วยลิจฉวีบริวารอันใหญ่ เข้าไป
เฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง จึงได้
กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างนี้ว่า พระพุทธเจ้าข้า วันก่อนหลายวัน
มาแล้ว ลิจฉวีบุตร นามว่า สุนักขัตตะ ได้เข้าไปหาข้าพระองค์แล้ว
 
๑๒/๒๔๓/๙๕

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น