วันศุกร์, มิถุนายน 18, 2564

Khon

 
ด้วยบุญกรรมนั้น ท่านท่องเที่ยวไปมาในเทวโลกและมนุษยโลก มา
ในพุทธุปบาทกาลนี้ จึงได้เกิดเป็นบุตรของชาวประมง ผู้เป็นหัวหน้าของคนอาทิผิด อักขระ
๕๐๐ สกุล ในหมู่บ้านของชาวประมง ใกล้ประตูพระนครสาวัตถี. มารดาบิดา
ได้ขนานนามท่านว่า ยโสชะ. ท่านเจริญวัยแล้ว ได้ไปลงอวนที่แม่น้ำอจิรวดี
เพื่อจะเอาปลาพร้อมกับลูกชาวประมง ที่เป็นเพื่อนของตน. บรรดาปลาเหล่านั้น
ปลาใหญ่ตัวหนึ่ง มีสีเหมือนทองเข้าอวน. ชาวประมงเหล่านั้น พากันเอาปลา
ไปให้พระเจ้าปเสนทิโกศล ทอดพระเนตร. พระองค์ตรัสว่า พระผู้มี-
พระภาคเจ้า (เท่านั้น) จึงจะทรงทราบเหตุแห่งสีของปลาสีทองตัวนี้ แล้ว
ทรงให้พวกเขาเอาปลาไปให้พระผู้มีพระภาคเจ้า ทอดพระเนตร. พระผู้มี
พระภาคเจ้าตรัสว่า ปลาตัวนี้ เมื่อพระศาสนาของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า
เสื่อมถอยลง บวชแล้วปฏิบัติผิด ทำให้ศาสนาเสื่อมถอยลง (มรณภาพแล้ว)
ไปเกิดในนรก ไหม้อยู่ในนรกสิ้นพุทธันดรหนึ่ง จุติจากนรกนั้นแล้ว จึงมา
เกิดเป็นปลาในแม่น้ำอจิรวดี แล้วทรงให้ปลานั้นนั่นเอง บอกความที่เขาและ
น้องของเขาเกิดในนรก และบอกความที่พระเถระผู้เป็นพี่ชายของเขาปรินิพพาน
แล้ว จึงทรงแสดงกบิลสูตร เพราะเกิดเรื่องนี้ขึ้น.
นายยโสชะ ครั้นได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดาแล้ว เกิด
สังเวชสลดใจ จึงได้บวชในสำนักของพระศาสดา พร้อมด้วยสหายของตน
พักอยู่ ณ ที่ ๆ สมควร อยู่มาวันหนึ่ง เป็นผู้มีบริวารได้ไปยังพระเชตวัน
เพื่อถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า. ในการมาของท่าน ได้มีเสียงอึกทึกคึก
โครมไปด้วยการปูเสนาสนะเป็นต้น ในวิหาร ผู้ศึกษาควรทราบเรื่องทั้งหมด
โดยนัยที่มีมาแล้วในคัมภีร์อุทานว่า พระศาสดาครั้นได้ทรงสดับเสียงนั้นแล้ว
ได้ทรงประณามท่านยโสชะ พร้อมด้วยบริวาร ส่วนท่านยโสชะผู้ถูกประณาม
 
๕๑/๓๑๕/๒๗๓

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น