วันพฤหัสบดี, มิถุนายน 24, 2564

Waiyawatchakon

 
แม้บทว่า จีวรํ อิตฺถนฺนามํ ภิกฺขุํ เป็นต้น ก็ฉันนั้น บัณฑิตพึงทราบว่า
ไม่ได้ตรัสบทภาชนะไว้ เพราะมีอรรถตื้นทั้งนั้น.
บทว่า อาภฏํ แปลว่า นำมาแล้ว .
สองบทว่า กาเลน กปฺปิยํ คือ โดยกาลอันถึงความสมควร.
ความว่า พวกเราจะรับจีวรที่ควรในเวลาพวกเรามีความต้องการ.
บทว่า เวยฺยาวจฺจกโร ได้แก่ ผู้ทำกิจ, ความว่า กัปปิยการก
(ผู้ทำของให้สมควร).
ข้อว่า สญฺญตฺโต โส มยา มีความว่า คนที่ท่านแสดงเป็น
ไวยาวัจกรอาทิผิด นั้น ข้าพเจ้าสั่งให้เข้าใจแล้ว คือ สั่งโดยประการที่เมื่อท่านมี
ความต้องการด้วยจีวรเขาจะถวายจีวรแก่ท่าน.
คำว่า อตฺโถ เม อาวุโส จีวเรน นี้ เป็นคำแสดงลักษณะแห่ง
การทวง (ด้วยวาจา). จริงอยู่ คำสำนวนนี้ ควรกล่าว, อีกอย่างหนึ่ง
อรรถแห่งคำว่า อาวุโส ! รูปมีความต้องการด้วยจีวรนั้น ควรกล่าวด้วย
ภาษาหนึ่ง. ลักษณะนี้ ชื่อว่าลักษณะแห่งการทวง. ส่วนคำว่า จงให้
จีวรแก่รูป เป็นต้น ตรัสไว้เพื่อแสดงอาการที่ไม่ควรกล่าว. จริงอยู่
คำเหล่านี้ หรือเนื้อความของคำเหล่านี้ไม่ควรกล่าวด้วยภาษาใดภาษาหนึ่ง.
ข้อว่า ทุติยํปิ วตฺตพฺโพ ตติยํปิ วตฺตพฺโพ มีความว่า ไวยาวัจกร
นั้น อันภิกษุพึงกล่าวคำนี้แลถึง ๓ ครั้งว่า อาวุโส ! รูปมีความต้อง
การจีวร.
พระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นทรงแสดงกำหนดการทวง ที่ยกขึ้นแสดง
ในคำว่า พึงทวงพึงเตือนสองสามครั้ง อย่างนี้แล้ว บัดนี้เมื่อจะทรง
แสดงใจความโดยสังเขปแห่งบทเหล่านี้ว่า ทฺวิตฺติกฺขตฺตุํ โจทยมาโน
 
๓/๗๓/๘๕๖

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น