วันเสาร์, กรกฎาคม 17, 2564

Awitcha

 
เป็นอันว่ากองทุกข์ทั้งมวลนั่นย่อมดับ ด้วยประการฉะนี้.
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเนื้อความนั้นแล้ว จึงทรง
เปล่งอุทานนี้ในเวลานั้น ว่าดังนี้:-

พุทธอุทานคาถาที่ ๑
เมื่อใดแล ธรรมทั้งหลาย ปรากฏ
แก่พราหมณ์ ผู้มีเพียรเพ่งอยู่ เมื่อนั้น ความ
สงสัยทั้งปวง ของพราหมณ์นั้นย่อมสิ้นไป
เพราะมารู้ธรรมพร้อมทั้งเหตุ.
[๒] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงมนสิการปฏิจจอาทิผิด อักขระสมุปบาท เป็น
อนุโลม และปฏิโลมตลอดมัชฌิมยามแห่งราตรี ว่าดังนี้ :-

ปฏิจจสมุปบาท อนุโลม
เพราะอวิชชาอาทิผิด อักขระเป็นปัจจัย จึงมีสังขาร
เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ
เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป
เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ
เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ
เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา
เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา
เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน
เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ
เพราะภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ
 
๖/๒/๓

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น