[๓๘] เมืองปาวา โภคนคร เมืองเวสาลี เมืองมคธและ
ปาสาณเจดีย์ อันเป็นรมณียสถานน่ารื่นรมย์ใจ.
[๓๙] พราหมณ์เหล่านั้นรีบขึ้นสู่ภูเขา (ปาสาณเจดีย์)
เหมือนคนระหายน้ำรีบหาน้ำเย็น เหมือนพ่อค้ารีบหา
ลาภใหญ่ และเหมือนคนถูกความร้อนแผดเผาและรีบหา
ร่มฉะนั้น.
[๔๐] ก็ในสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าอันภิกษุสงฆ์ห้อม-
ล้อมแล้วทรงแสดงธรรมแก่พระภิกษุทั้งหลาย ประหนึ่ง
ว่าราชสีห์บันลือสีหนาทอยู่ในป่า.
[๔๑] อชิตพราหมณ์ ได้เห็นพระอาทิผิด สระ สัมพุทธเจ้า ผู้เพียงดังว่า
ดวงอาทิตย์มีรัศมีฉายออกไป และเหมือนดวงจันทร์
เต็มดวงในวันเพ็ญ.
[๔๒] ลำดับนั้น อชิตพราหมณ์ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนหนึ่ง
รื่นเริงใจเพราะได้เห็นอนุพยัญชนะบริบูรณ์ ในพระกาย
ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ทูลถามปัญหาด้วยใจ.
[๔๓] อ. ท่านเจาะจงใคร จงบอกโคตรพร้อมด้วยลักษณะ
บอกความสำเร็จในมนต์ทั้งหลาย พราหมณ์สอนมาณพ
เท่าไร.
[๔๔] พ. พราหมณ์นั้นมีอายุ ๑๒๐ ปี ชื่อพาวรีโดยโคตร
ลักษณะ ๓ อย่างมีในตัวของพราหมณ์นั้น พราหมณ์นั้น
เป็นผู้ถึงฝั่งแห่งไตรเพท.
[๔๕] พาวรีพราหมณ์ ถึงความสำเร็จในธรรมของตน สอน
ปาสาณเจดีย์ อันเป็นรมณียสถานน่ารื่นรมย์ใจ.
[๓๙] พราหมณ์เหล่านั้นรีบขึ้นสู่ภูเขา (ปาสาณเจดีย์)
เหมือนคนระหายน้ำรีบหาน้ำเย็น เหมือนพ่อค้ารีบหา
ลาภใหญ่ และเหมือนคนถูกความร้อนแผดเผาและรีบหา
ร่มฉะนั้น.
[๔๐] ก็ในสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าอันภิกษุสงฆ์ห้อม-
ล้อมแล้วทรงแสดงธรรมแก่พระภิกษุทั้งหลาย ประหนึ่ง
ว่าราชสีห์บันลือสีหนาทอยู่ในป่า.
[๔๑] อชิตพราหมณ์ ได้เห็น
ดวงอาทิตย์มีรัศมีฉายออกไป และเหมือนดวงจันทร์
เต็มดวงในวันเพ็ญ.
[๔๒] ลำดับนั้น อชิตพราหมณ์ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนหนึ่ง
รื่นเริงใจเพราะได้เห็นอนุพยัญชนะบริบูรณ์ ในพระกาย
ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ทูลถามปัญหาด้วยใจ.
[๔๓] อ. ท่านเจาะจงใคร จงบอกโคตรพร้อมด้วยลักษณะ
บอกความสำเร็จในมนต์ทั้งหลาย พราหมณ์สอนมาณพ
เท่าไร.
[๔๔] พ. พราหมณ์นั้นมีอายุ ๑๒๐ ปี ชื่อพาวรีโดยโคตร
ลักษณะ ๓ อย่างมีในตัวของพราหมณ์นั้น พราหมณ์นั้น
เป็นผู้ถึงฝั่งแห่งไตรเพท.
[๔๕] พาวรีพราหมณ์ ถึงความสำเร็จในธรรมของตน สอน
๖๗/๔๑/๗
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น