วันจันทร์, สิงหาคม 30, 2564

Silapphatapramat

 
แล้วซึ่งโอฆะนี้โดยแท้ และเป็นผู้ข้ามถึงฝั่ง ไม่มีเสา
เขื่อน ไม่มีความสงสัย.
[๑๙๕] คำว่า พฺราหฺมณํ ในอุเทศว่า ยํ พฺราหฺมณํ เวทคุํ
อภิชญฺญา ความว่า ชื่อว่าเป็นพราหมณ์เพราะเป็นผู้ลอยเสียแล้วซึ่งธรรม
๗ ประการ เป็นผู้ลอยสักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาสอาทิผิด สระ ราคะ โทสะ
โมหะ มานะ เป็นผู้ลอยอกุศลบาปธรรมอันทำให้เศร้าหมอง ให้เกิดใน
ภพใหม่ มีความกระวนกระวาย มีทุกข์เป็นวิบาก เป็นที่ตั้งแห่งชาติ ชรา
และมรณะต่อไป.
(พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ดูก่อนสภิยะ) พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้า ลอยเสียแล้วซึ่งธรรมอันลามกทั้งปวง
ปราศจากมลทิน มีจิตตั้งมั่นดี มีจิตคงที่ ล่วงแล้วซึ่ง
สงสาร เป็นผู้บริบูรณ์ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นอันตัณหา
และทิฏฐิไม่อาศัย เป็นผู้คงที่ บัณฑิตกล่าวว่าเป็นผู้
ประเสริฐ.
ญาณในมรรค ๔ ตรัสว่าเวท ในคำว่า เวทคุํ ฯ ล ฯ พราหมณ์นั้น
เป็นเวทคู เพราะล่วงเสียซึ่งเวททั้งปวง.
คำว่า อภิชญฺญา ความว่า พึงรู้จัก คือ พึงรู้ทั่ว รู้แจ้ง รู้แจ้ง
เฉพาะ แทงตลอด เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า พึงรู้จักผู้ใดว่าเป็นพราหมณ์
ผู้ถึงเวท.
[๑๙๖] คำว่า อกิญฺจนํ ในอุเทศว่า อกิญฺจนํ กามภเว อสตฺตํ
ดังนี้ ความว่า เครื่องกังวล คือ ราคะ เครื่องกังวล คือ โทสะ โมหะ
มานะ ทิฏฐิ กิเลส ทุจริต เครื่องกังวลเหล่านี้อันผู้ใดละขาดแล้ว ตัด
๑. ขุ. สุ. ๒๕/ข้อ ๓๖๗.
 
๖๗/๑๙๕/๑๓๘

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น