วันเสาร์, ตุลาคม 16, 2564

Asangkhata

 
มหาวรรค
ปุคคลกถา
อนุโลมปัญจกะ
ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺฉิกฏฺฐปรมฏฺเฐน สกวาที ถามว่า
ท่านหยั่งเห็นบุคคลได้โดยสัจฉิกัตถะ คือ อรรถอันเป็นจริง และปร-
มัตถะ คือ อรรถอย่างยิ่ง หรือ ?
อามนฺตา ( ปรวาที ตอบว่า ) ใช่. ปรวาทีหมายเอาอุปาทา-
บัญญัติ ซึ่งเป็นสมมติสัจจะตามลัทธิที่ท่านได้ตั้งไว้ ส่วนสกวาที มุ่ง
เอาปรมัตถสัจจะ จึงได้ซักเพื่อพิสูจน์ความเป็นปรมัตถ์ต่อไป.
สกวาทีซักว่า สภาวธรรมใดมีอรรถอันเป็นจริง มีอรรถอย่าง
ยิ่งมีอยู่ ท่านหยั่งเห็นบุคคลนั้นได้ด้วยอรรถอันเป็นจริงและอรรถอย่าง
ยิ่งนั้น หรือ ? คำว่า สภาวธรรมใด มีอรรถอันเป็นจริงมีอรรถอย่าง
ยิ่ง นั้น ได้แก่ สภาวธรรม ๕๗ ประเภท คือขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒
ธาตุ ๑๘ อินทรีย์ ๒๒ และพระนิพพาน หรือสังขตธรรม และ
อสังขตอาทิผิด สระธรรมเป็นต้น ธรรมเหล่านี้บัณฑิตไม่พึงถือเอาโดยสมมติสัจจะ.
ปรวาที ปฏิเสธว่า ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น.
สกวาที จึงกล่าวว่า ท่านจงรู้นิคคหะ คือการผิดพลาด หากว่า
ท่านหยั่งเห็นบุคคลได้โดยสัจฉิกัตถะและปรมัตถะไซร้ ด้วยเหตุนั้นแหละ
 
๘๐/๑/๒๒

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น