วันจันทร์, พฤศจิกายน 01, 2564

Ton

 
แก่สัมมาทิฏฐิ และเพราะความเป็นเบื้องต้นของสัมมาทิฏฐิ, ชื่อว่า ขันติ ด้วย
สามารถแห่งการอดทนของพระผู้มีพระภาคเจ้า, ชื่อว่า รุจิ ด้วยสามารถแห่ง
ความพอใจ และชื่อว่า ลัทธิ ด้วยสามารถแห่งการถือเอา.
สภาวะใด ย่อมทรงไว้ซึ่งการกของตนอาทิผิด อาณัติกะไม่ให้ตกไปในอบายทั้งหลาย
ฉะนั้น สภาวะนั้น จึงชื่อว่า ธรรม. สภาวะนั้นนั่นแหละ. ชื่อว่า วินัย.
เพราะอรรถว่า ย่อมนำออกซึ่งสภาวะอันเป็นส่วนแห่งสังกิเลส. ธรรมนั้นด้วย
วินัยนั้นด้วย ชื่อว่า ธรรมวินัย.
อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่า ธรรมวินัย เพราะอรรถว่า เป็นสภาพกำจัด
อกุศลธรรมทั้งหลาย ด้วยกุศลธรรมทั้งหลาย. ด้วยเหตุนั้นนั่นแหละ พระผู้มี
พระภาคเจ้าจึงตรัสว่า ก็ดูก่อนโคตมี เธอพึงทราบธรรมเหล่าใดแล ธรรม
เหล่านี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความคลายกำหนัด ไม่เป็นไปเพื่อความกำหนัด ฯลฯ
ดูก่อนโคตมี เธอพึงรู้โดยส่วนเดียวว่า นั่นเป็นธรรม นั่นเป็นวินัย นั่นเป็น
สัตถุศาสน์ ดังนี้.
อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่า ธรรมวินัย เพราะอรรถว่า การฝึกโดยธรรม
มิใช่ฝึกด้วยอาชญา มีท่อนไม้ เป็นต้น. จริงดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า
ทณฺเฑเนเก ทมยนฺติ องฺกุเสหิ กสาหิ จ
อทณฺเฑน อสตฺเถน นาโค ทนฺโต มเหสินา.
แปลว่า
คนบางพวกย่อมฝึกสัตว์ด้วยท่อนไม้
ด้วยขอสับ และด้วยแส้ แต่พระผู้มี-
พระภาคเจ้าผู้แสวงหาคุณใหญ่ ทรงฝึกช้าง
ตัวประเสริฐ มิใช่ด้วยท่อนไม้ มิใช่ด้วย
ศาสตรา.
 
๗๘/๗๔๐/๓๔๗

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น