วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 23, 2564

Duai

 
ก็เพราะเหตุที่ในพระนิพพาน จะมีภัยมาแต่ไหน ฉะนั้น พระนิพพานนั้น
พระองค์จึงตรัสว่า จะมีภัยมาแต่ไหน. บทว่า อนิโฆ ได้แก่ ทรงไม่มีทุกข์.
บทว่า สพฺพโลกวิสํยุตฺโต ความว่า ทรงถึงความสิ้นไป คือ ความสิ้นสุด
ได้แก่ ความไม่มีโดยส่วนเดียว แห่งกรรมทั้งมวล. บทว่า วิมุตฺโตอุปธิสํขเย
ความว่า ทรงหลุดพ้นแล้ว ด้วยอาทิผิด ผลวิมุตติ ที่มีพระนิพพานนั้นเป็นอารมณ์ใน
พระนิพพาน กล่าวคือ ธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่งอุปธิ. บทว่า เอส โส เท่ากับ
เอโส โส (แปลว่า นั้นนั่น). บทว่า สีโห อนุตฺตโร ความว่า พระ
ตถาคตเจ้า ทรงพระนามว่า เป็นยอดสีหะ เพราะความหมายว่า ทรงอด
กลั้นอันตรายทั้งหลายได้ และเพราะความหมายว่า ทรงฆ่ากิเลสได้. บทว่า
พฺรหฺมํ ความว่า ประเสริฐสุด. บทว่า จกฺกํ ได้แก่ พระธรรมจักร.
บทว่า ปวตฺตติ ความว่า ทรงหมุน (แสดง) พระธรรมจักรให้ได้ ๓ รอบ
มีอาการ ๑๒. บทว่า อิติ ความว่า ทราบพระคุณของพระตถาคตอย่างนี้
แล้ว. บทว่า สงฺคมฺม ได้แก่ มาชุมนุมกัน. บทว่า ตํ นมสฺสนฺติ
ความว่า เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายเหล่านั้น ผู้ถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ
พากันนมัสการพระตถาคตเจ้า พระองค์นั้น ผู้ชื่อว่า มีพระคุณใหญ่
เพราะทรงประกอบด้วยคุณความดี มีศีลเป็นต้นมากมาย ผู้ชื่อว่า ทรงปราศ
จากความครั่นคร้าม เพราะทรงประกอบด้วยพระธรรมที่ทำให้ทรงแกล้วกล้า
๔ อย่าง.
บัดนี้ เพื่อจะทรงแสดงถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีเทวดาและ
มนุษย์ทั้งหลายเหล่านั้น พากันเอ่ยถึงพลาง นมัสการไปพลาง จึงได้ตรัสคำมี
อาทิไว้ว่า ทนฺโต. คำนั้นมีเนื้อความง่ายอยู่แล้วแล.
จบอรรถกถาโลกสูตรที่ ๑๓
 
๔๕/๒๙๓/๗๓๙

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น