แต่อสังขตธาตุ พึงเห็นโดยความเป็นอมตะ โดยความเป็นธรรม
สงบและโดยเป็นธรรมเกษมอาทิผิด อักขระ เพราะเหตุไร ? เพราะความเป็นปฏิปักษ์ต่อความ
ฉิบหายทั้งมวล. มโนวิญญาณธาตุ พึงเห็นเหมือนลิงในป่าใหญ่เพราะแม้
ปล่อยอารมณ์ที่ตนจับไว้แล้วก็ยืดอารมณ์อื่นเป็นไปอีก เป็นเหมือนม้ากระจอก
เพราะฝึกได้ยาก เป็นเหมือนท่อนไม้ที่โยนไปในอากาศ เพราะจะตกไปใน
อารมณ์ที่มันชอบ และเป็นเหมือนนักเต้นรำบนเวทีเพราะประกอบด้วยกิเลส
มีประการต่าง ๆ โดยมีโลภะและโทสะเป็นต้น.
พึงทราบวินิจฉัยในนิเทศวาร ต่อไป๑ :-
คำว่า จกฺขญฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ (อาศัยจักขุประสาทและรูปารมณ์)
อธิบายว่า เพราะอาศัยจักขุประสาทและรูปารมณ์ทั้ง ๒ นี้ด้วย เพราะอาศัย
ธรรมอื่น คือ กิริยามโนธาตุและขันธ์ ๓ (เวทนา สัญญา สังขารขันธ์) ที่
สัมปยุตด้วย เพราะจักขุ (ประสาท) เป็นนิสสยปัจจัย รูปเป็นอารัมมณปัจจัย
กิริยามโนธาตุ (อาวัชชนจิต) เป็นวิคตปัจจัย อรูปขันธ์ ๓ (เวทนา สัญญา
สังขารขันธ์) เป็นสหชาตปัจจัยของจักขุวิญญาณธาตุ เพราะฉะนั้น จักขุวิญญาณ
ธาตุนี้ จึงชื่อว่า ย่อมเกิดขึ้นเพราะอาศัยปัจจัย ๔ เหล่านี้. แม้ในคำว่า อาศัย
โสตประสาทเป็นต้นก็นัยนี้เหมือนกัน.
บทว่า นิรุทฺธสมนนฺตรา๒ ตัดบทเป็น นิรุทฺธาย สมนนฺตรา
แปลว่า ในลำดับแห่งการดับของจักขุวิญญาณธาตุ.
บทว่า ตชฺชา มโนธาตุ (มโนธาตุที่สมกัน) ได้แก่ มโนธาตุ ๒
อย่าง โดยเป็นกุศลวิบาก และอกุศลวิบาก ซึ่งเกิดในอารมณ์นั้นทำหน้าที่รับ
อารมณ์.
๑. บาลีข้อ ๑๒๕ หน้า ๘๐๘ ๒. บาลีข้อ ๑๓๐ หน้า ๑๑๐
สงบและโดยเป็นธรรม
ฉิบหายทั้งมวล. มโนวิญญาณธาตุ พึงเห็นเหมือนลิงในป่าใหญ่เพราะแม้
ปล่อยอารมณ์ที่ตนจับไว้แล้วก็ยืดอารมณ์อื่นเป็นไปอีก เป็นเหมือนม้ากระจอก
เพราะฝึกได้ยาก เป็นเหมือนท่อนไม้ที่โยนไปในอากาศ เพราะจะตกไปใน
อารมณ์ที่มันชอบ และเป็นเหมือนนักเต้นรำบนเวทีเพราะประกอบด้วยกิเลส
มีประการต่าง ๆ โดยมีโลภะและโทสะเป็นต้น.
พึงทราบวินิจฉัยในนิเทศวาร ต่อไป๑ :-
คำว่า จกฺขญฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ (อาศัยจักขุประสาทและรูปารมณ์)
อธิบายว่า เพราะอาศัยจักขุประสาทและรูปารมณ์ทั้ง ๒ นี้ด้วย เพราะอาศัย
ธรรมอื่น คือ กิริยามโนธาตุและขันธ์ ๓ (เวทนา สัญญา สังขารขันธ์) ที่
สัมปยุตด้วย เพราะจักขุ (ประสาท) เป็นนิสสยปัจจัย รูปเป็นอารัมมณปัจจัย
กิริยามโนธาตุ (อาวัชชนจิต) เป็น
สังขารขันธ์) เป็นสหชาตปัจจัยของจักขุวิญญาณธาตุ เพราะฉะนั้น จักขุวิญญาณ
ธาตุนี้ จึงชื่อว่า ย่อมเกิดขึ้นเพราะอาศัยปัจจัย ๔ เหล่านี้. แม้ในคำว่า อาศัย
โสตประสาทเป็นต้นก็นัยนี้เหมือนกัน.
บทว่า นิรุทฺธสมนนฺตรา๒ ตัดบทเป็น นิรุทฺธาย สมนนฺตรา
แปลว่า ในลำดับแห่งการดับของจักขุวิญญาณธาตุ.
บทว่า ตชฺชา มโนธาตุ (มโนธาตุที่สมกัน) ได้แก่ มโนธาตุ ๒
อย่าง โดยเป็นกุศลวิบาก และอกุศลวิบาก ซึ่งเกิดในอารมณ์นั้นทำหน้าที่รับ
อารมณ์.
๑. บาลีข้อ ๑๒๕ หน้า ๘๐๘ ๒. บาลีข้อ ๑๓๐ หน้า ๑๑๐
๗๗/๑๓๐/๒๖๔
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น