หลายบทว่า นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโล มีความว่า ขึ้นชื่อว่าบุคคลผู้
เปรียบปานกับเราย่อมไม่มี.
บทว่า สีติภูโต มีความว่า จัดว่าเป็นผู้มีความเย็นใจ เพราะดับไฟ
คือกิเลสเสียทั้งหมด.
บทว่านิพฺพุโตอาทิผิด สระ มีความว่า จัดว่าเป็นผู้ดับแล้ว เพราะกิเลสทั้ง
หลายนั้นเองดับไป.
สองบทว่า กาสีนํ ปุรํ ได้แก่ เมืองหลวงในแคว้นของชาวกาสี.
บาทคาถาว่า อหญฺญึ อมตทุนฺทภึ มีความว่า เราจะไปด้วย คิดว่า
จักตีกลองอมฤตเพื่อได้ดวงตาเห็นธรรม.
สองบทว่า อรหสิ อนนฺตชิโน มีความว่า ท่านสมควรเป็นผู้
ชำนะไม่มีที่สุดจริง.
บทว่า หุเวยฺยาวุโส มีความว่า ผู้มีอายุ พึงเป็นได้ถึงอย่างนั้น
เทียวนะ๑.
สองบทว่า สีสํ โอกมฺเปตฺวา ได้แก่ สั่นศีรษะ.
บทว่า สณฺฐเปสุํ คือ ได้ทำกติกา.
บทว่า พาหุลฺลิโก ได้แก่ ผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์แก่ความเป็นผู้มี
จีวรมากเป็นต้น.
บทว่า ปธานวิพฺภนฺโต ได้แก่ เป็นผู้คลายเสียแล้ว คือตกเสีย
แล้ว เสื่อมเสียแล้ว จากความเพียร.
สองบทว่า อาวตฺโต พาหุลฺลาย ได้แก่ ผู้เวียนมาเพื่อประโยชน์
แก่ความเป็นผู้มักมากด้วยปัจจัยมีจีวรเป็นต้น .
๑. ในปฐมสมโพธิว่า ดูก่อนอาวุโส นามว่า อนันตชิโน พึงเป็นชื่อได้.
เปรียบปานกับเราย่อมไม่มี.
บทว่า สีติภูโต มีความว่า จัดว่าเป็นผู้มีความเย็นใจ เพราะดับไฟ
คือกิเลสเสียทั้งหมด.
บทว่า
หลายนั้นเองดับไป.
สองบทว่า กาสีนํ ปุรํ ได้แก่ เมืองหลวงในแคว้นของชาวกาสี.
บาทคาถาว่า อหญฺญึ อมตทุนฺทภึ มีความว่า เราจะไปด้วย คิดว่า
จักตีกลองอมฤตเพื่อได้ดวงตาเห็นธรรม.
สองบทว่า อรหสิ อนนฺตชิโน มีความว่า ท่านสมควรเป็นผู้
ชำนะไม่มีที่สุดจริง.
บทว่า หุเวยฺยาวุโส มีความว่า ผู้มีอายุ พึงเป็นได้ถึงอย่างนั้น
เทียวนะ๑.
สองบทว่า สีสํ โอกมฺเปตฺวา ได้แก่ สั่นศีรษะ.
บทว่า สณฺฐเปสุํ คือ ได้ทำกติกา.
บทว่า พาหุลฺลิโก ได้แก่ ผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์แก่ความเป็นผู้มี
จีวรมากเป็นต้น.
บทว่า ปธานวิพฺภนฺโต ได้แก่ เป็นผู้คลายเสียแล้ว คือตกเสีย
แล้ว เสื่อมเสียแล้ว จากความเพียร.
สองบทว่า อาวตฺโต พาหุลฺลาย ได้แก่ ผู้เวียนมาเพื่อประโยชน์
แก่ความเป็นผู้มักมากด้วยปัจจัยมีจีวรเป็นต้น .
๑. ในปฐมสมโพธิว่า ดูก่อนอาวุโส นามว่า อนันตชิโน พึงเป็นชื่อได้.
๖/๒๔/๕๙
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น