วันจันทร์, มีนาคม 28, 2565

Yangkinchi

 
คำว่า ยงฺกิญฺจิอาทิผิด สาวเกน ปตฺตพฺพํ สพฺพํ เตน ปตฺตพฺพํ มีความว่า
คุณชาตินี้ คือ วิชชา ๓ ปฏิสัมภิทา ๔ อภิญญา ๖ โลกุตรธรรม ๙
ชื่อว่า อันสาวกพึงบรรลุ, คุณชาตินั้น ย่อมเป็นอันพระเถระนั้นบรรลุ
แล้วทุกอย่าง.
คำว่า นตฺถิ จสฺส กิญฺจิ อุตฺตริกรณียํ มีความว่า บัดนี้ กิจที่
จะพึงทำให้ยิ่งขึ้นไปน้อยหนึ่ง ไม่มีแก่พระเถระนั้น เพราะกิจ ๑๖ ประการ
ในอริยสัจ ๔ อัน ท่านกระทำเสร็จแล้วด้วยมรรค ๔.
คำว่า กตสฺส วา ปฏิจโย มีความว่า แม้การจะเพิ่มเติมกิจที่
กระทำเสร็จแล้วนั้นก็ไม่มี เหมือนกับผ้าที่ซักแล้ว ไม่ต้องซักซ้ำอีก
เหมือนของหอมที่บดแล้ว ไม่ต้องบดซ้ำอีก และเหมือนดอกไม้ที่บานแล้ว
ไม่กลับบานอีกฉะนั้นแล.
บทว่า รโหคตสฺส ได้แก่ ไปในที่สงัด.
บทว่า ปฏิสลฺลีนสฺส ได้แก่ หลีกจากอารมณ์นั้น ๆ แล้วเร้นอยู่.
มีคำอธิบายว่า ถึงความเป็นผู้โดดเดี่ยว.
ข้อว่า อถโข อายสฺมโต ทพฺพสฺส มลฺลปุตฺตสฺส เอตทโหสิ
ยนฺนูนาหํ สงฺฆสฺส เสนาสนญฺจ ปญฺญาเปยฺยํ ภตฺตานิ จ อุทฺทิเสยฺยํ
มีความว่า ได้ยินว่า พระเถระเห็นว่า กิจของตนกระทำเสร็จแล้ว จึงดำริว่า
เรายังทรงไว้ซึ่งสรีระสุดท้ายอันนี้, ก็แลสรีระสุดท้ายนั้น ดำรงอยู่ในทาง
แห่งความเป็นของไม่เที่ยง ไม่นานนักก็จะดับไปเป็นธรรมดา ดุจประทีป
ตั้งอยู่ทางลมฉะนั้น, เราควรจะกระทำการขวนขวายแก่สงฆ์ ตลอดเวลา
ที่ยังไม่ดับ อย่างไรหนอแล ? พลางพิจารณาเห็นอย่างนั้นว่า เหล่ากุลบุตร
เป็นอันมาก ในแคว้นนอกทั้งหลาย บวชไม่ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า
 
๓/๕๖๓/๔๗๘

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น