วันอาทิตย์, เมษายน 03, 2565

Pranam

 
สีมา นิสัยยังไม่ระงับ ก็ถ้า อาจารย์บอกลาอันเตวาสิกว่า ฉันจักไปที่โน้นนะ
คุณ, และเมื่ออันเตวาสิกถามว่า จักไปเมื่อไร ? ตอบว่า เวลาเย็น หรือตอน
กลางคืน, พออันเตวาสิกรับว่า ดีแล้ว นิสัยระงับทันที. แต่ถ้าอาจารย์บอกว่า
พรุ่งนี้ฉันจักเที่ยวบิณฑบาตแล้วเลยไป ฝ่ายอันเตวาสิก รับว่า ดีแล้ว นิสัย
ยังไม่ระงับก่อนตลอดวันหนึ่ง ต่อวันรุ่งขึ้นจึงระงับ. อาจารย์บอกว่า ฉันจัก
ไปบิณฑบาตที่บ้านโน้นแล้ว จึงจะรู้ว่า จะไปหรือไม่ไป ถ้าไม่ไป นิสัยไม่
ระงับ. ถ้าแม้เมื่ออาจารย์บอกว่าจะไป แล้วถูกอันเตวาสิกหน่วงไว้ว่า อย่าพึง
ไปก่อน กลางคืนหารือกัน แล้วจึงค่อยทราบ, แม้หารือกันแล้วไม่ไป นิสัยก็ไม่
ระงับ. ถ้าอันเตวาสิกและอาจารย์ทั้ง ๒ ต่างออกนอกสีมาไป ด้วยกรณียกิจ
บางอย่าง ลำดับนั้น ถ้าเมื่อจิตคิดจะไปเกิดขึ้น อาจารย์ไม่ทันบอกลา ไปเสีย
แล้วกลับแต่เพียงใน ๒ เลฑฑุบาต. นิสัยยังไม่ระงับ ถ้าล่วง ๒ เลฑฑุบาต
ออกไปแล้วจึงกลับ, นิสัยย่อมระงับ. อาจารย์และอุปัชฌาย์ อยู่ในวัดที่อยู่อื่น
ล่วง ๒ เลฑฑุบาตออกไปนิสัยระงับ. อาจารย์ลาสิกขา มรณภาพ ไปเข้ารีตเสีย
นิสัยระงับทันที.
ส่วนในการสั่งบังคับวินิจฉัยว่า ถ้าแม้อาจารย์เป็นผู้มีปรารถนาจะสลัด
จริง ๆ จึงผลักออกเสียด้วยประณามนิสัย. แต่อันเตวาสิกยังเป็นผู้ถืออาลัยอยู่ว่า
อาจารย์ประณามอาทิผิด อักขระเราเสียก็จริง แต่ว่าท่านยังเป็นผู้อ่อนโยนด้วยน้ำใจ ดังนี้
นิสัยยังไม่ระงับ. ถ้าแม้อาจารย์มีอาลัย แต่อันเตวาสิกหมดอาลัยทอดธุระว่า
คราวนี้ เราจักไม่อาศัยอาจารย์นี้อยู่ แม้อย่างนั้น นิสัยย่อมยังไม่ระงับ. และ
ด้วยข้อที่ทั้ง ๒ ฝ่ายยังมีอาลัย นิสัยย่อมไม่ระงับแท้. ในเมื่อทั้ง ๒ ฝ่ายทอด
ธุระ นิสัยจึงระงับ. อันเตวาสิกผู้ประณาม ควรยอมรับทัณฑกรรม. แล้วขอ
ให้อาจารย์อดโทษ ๓ ครั้ง ถ้าท่านไม่อดโทษให้ พึงปฏิบัติโดยนัยที่กล่าวแล้ว
ในอุปัชฌาย์.
 
๖/๙๙/๒๒๐

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น