วันอาทิตย์, พฤษภาคม 08, 2565

Tang

 
หรือด้วยฤทธิ์ก็ไม่ต้องปาราชิก. แต่ย่อมต้องอาบัติด้วยการเดินไปด้วยเท้านั้น.
ภิกษุผู้เดินไปถึงสถานที่แม้นั้น ไม่ก่อนไม่หลัง พร้อมด้วยพวกภิกษุผู้ร่วมกัน
ตั้งข้อกติกาไว้ไม่ต้องอาบัติ. เพราะว่า ภิกษุทั้งหลาย เมื่อเดินไปอย่างนั้น
ยังรักษากันและกันได้แม้ทั้งหมด. แม้ถ้าภิกษุทั้งหลาย กำหนดสถานที่บางแห่ง
บรรดามณฑปและโคนต้นไม้เป็นต้น แล้วตั้งข้อกติกาไว้โดยนัยเป็นต้นว่า
พวกเราจักรู้ภิกษุผู้นั่งหรือเดินจงกรมอยู่ในที่นี้ว่า เป็นพระอรหันต์ หรือเอา
ดอกไม้วางไว้โดยนัยเป็นต้นว่า พวกเราจักทราบภิกษุผู้ถือเอาดอกไม้เหล่านี้
แล้วทำการบูชาว่า เป็นพระอรหันต์ . แม้ในข้อกติกวัตรนั้น เมื่อภิกษุทำอยู่
เหมือนอย่างนั้น ด้วยอำนาจอิจฉาจาร เป็นปาราชิกเหมือนกัน. แม้ถ้าอุบาสก
สร้างวิหารไว้ในระหว่างทางก็ดี ตั้งปัจจัยมีจีวรเป็นต้นไว้ก็ดี ด้วยกล่าวว่า
ขอภิกษุผู้เป็นพระอรหันต์ทั้งหลาย จงพักอยู่ในวิหารหลังนี้ และจงถือเอาปัจจัย
มีจีวรเป็นต้น. แม้ในข้อกติกวัตรที่อุบาสกตั้งอาทิผิด อักขระไว้นั้น เมื่อภิกษุพักอยู่ หรือถือ
เอาปัจจัยมีจีวรเป็นต้นเหล่านั้น ด้วยอำนาจอิจฉาจาร เป็นปาราชิกเหมือนกัน .
แต่ว่านั่น เป็นกติกวัตรที่ไม่ชอบธรรม ; เพราะเหตุนั้น จึงไม่ควรทำ.
อีกอย่างหนึ่ง วัตรอื่นเห็นปานนี้ มีอาทิอย่างนี้ว่า ในภายในไตรมาสนี้
ภิกษุทั้งหมดจงเป็นผู้ถือการอยู่ป่าเป็นวัตร หรือว่าทรงไว้ซึ่งธุดงค์ที่เหลือ มี
องค์แห่งภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตรเป็นต้น. หรือว่า จงเป็นผู้สิ้นอาสวะ
หมดทุกรูปด้วยกัน, ดังนี้. (ชื่อว่าวัตรที่ไม่ชอบธรรม) แท้จริง ภิกษุทั้งหลาย
ผู้อยู่ในชนบทต่าง ๆ ย่อมประชุมกัน. บรรดาภิกษุเหล่านั้น ภิกษุบางพวก
ทุพพลภาพมีกำลังน้อย ย่อมไม่สามารถจะตามรักษาข้อวัตรเห็นปานนั้นได้.
เพราะเหตุนั้น ข้อวัตรแม้เห็นปานนั้น จึงไม่ควรทำ. และข้อวัตรมีอาทิอย่างนี้
ว่า ตลอดไตรมาสนี้ ภิกษุหมดทุกรูปด้วยกัน ไม่พึงแสดงธรรม ไม่พึงเรียน
 
๒/๓๐๐/๖๔๘

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น