ว่า ไม่ใช่เทพบุตร แต่นั่นเป็นมหาพรหม เมื่อยิ่งใกล้เข้ามาอีก ก็พูดว่า
ไม่ใช่เป็นมหาพรหม แต่เป็นพระพุทธเจ้าอีกองค์หนึ่งเสด็จมา ดังนี้. ในที่นั้น
พวกเทวดาปุถุชน ก็พากันคิดว่า พระพุทธเจ้าองค์เดียว ที่ประชุมเทวดา
ก็ใหญ่ขนาดนี้แล้ว สองพระองค์จะใหญ่ขนาดไหน (ส่วน) เทวดาอริยะ
ก็พากันคิดว่า ในโลกธาตุเดียว ไม่มีพระพุทธเจ้าสองพระองค์ พระผู้มีพระ
เจ้าทรงเนรมิตพระพุทธเจ้าองค์อื่นอาทิผิด สระ ขึ้นมาอีกพระองค์หนึ่งที่เหมือนกับพระองค์
เป็นแน่.
ขณะที่หมู่เทพกำลังเห็นพระพุทธนิรมิตนั่นเอง พระพุทธนิรมิตก็เสด็จ
มาถึงไม่ทรงไหว้พระทศพลเลย ทำให้เท่า ๆ กันในที่เฉพาะพระพักตร์แล้วก็
ประทับนั่งบนพระที่นั่งที่เนรมิตไว้. มหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการ แม้ของ
พระผู้มีพระภาคเจ้าแม้ของพระพุทธนิรมิต ก็มี ๓๒ ประการเหมือนกัน. พระ
รัศมี ๖ สี ออกไปจากพระสรีระแม้ของพระผู้มีพระภาคเจ้า แม้ของพระพุทธ
นิรมิตก็เหมือนกัน. พระรัศมีจากพระสรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้ากระทบพระ
กายของพระพุทธนิรมิต พระรัศมีจากพระสรีระของพระพุทธเนรมิตก็กระทบ
พระกายพระผู้มีพระภาคเจ้า. รัศมีเหล่านั้นพุ่งจากพระสรีระของพระพุทธเจ้า
ทั้งสองพระองค์ไปจรดชั้น อกนิฏฐพรหม กลับจากนั้นก็ลงในที่สุดของทุกเศียร
ของเหล่าเทพ แล้วตั้งอยู่ที่ขอบปากจักรวาล. ห้องจักรวาลทั้งสิ้นรุ่งเรืองดัง
เรือนพระเจดีย์ที่มีไม้จันทันโค้งที่แล้วไปด้วยเงินรึงรัดไว้แล้วฉะนั้น. เทวดา
ในหมื่นจักรวาล รวมเป็นกลุ่มในจักรวาลเดียวเข้าไปตั้งอยู่ในระหว่างห้องรัศมี
ของพระพุทธเจ้าทั้งสองพระองค์. เมื่อพระพุทธเนรมิตกำลังประทับนั่งอยู่นั่น
แล ชมเชยการละกิเลสที่โพธิบัลลังก์ของพระทศพล จึงตรัสคาถาว่า
ไม่ใช่เป็นมหาพรหม แต่เป็นพระพุทธเจ้าอีกองค์หนึ่งเสด็จมา ดังนี้. ในที่นั้น
พวกเทวดาปุถุชน ก็พากันคิดว่า พระพุทธเจ้าองค์เดียว ที่ประชุมเทวดา
ก็ใหญ่ขนาดนี้แล้ว สองพระองค์จะใหญ่ขนาดไหน (ส่วน) เทวดาอริยะ
ก็พากันคิดว่า ในโลกธาตุเดียว ไม่มีพระพุทธเจ้าสองพระองค์ พระผู้มีพระ
เจ้าทรงเนรมิตพระพุทธเจ้าองค์
เป็นแน่.
ขณะที่หมู่เทพกำลังเห็นพระพุทธนิรมิตนั่นเอง พระพุทธนิรมิตก็เสด็จ
มาถึงไม่ทรงไหว้พระทศพลเลย ทำให้เท่า ๆ กันในที่เฉพาะพระพักตร์แล้วก็
ประทับนั่งบนพระที่นั่งที่เนรมิตไว้. มหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการ แม้ของ
พระผู้มีพระภาคเจ้าแม้ของพระพุทธนิรมิต ก็มี ๓๒ ประการเหมือนกัน. พระ
รัศมี ๖ สี ออกไปจากพระสรีระแม้ของพระผู้มีพระภาคเจ้า แม้ของพระพุทธ
นิรมิตก็เหมือนกัน. พระรัศมีจากพระสรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้ากระทบพระ
กายของพระพุทธนิรมิต พระรัศมีจากพระสรีระของพระพุทธเนรมิตก็กระทบ
พระกายพระผู้มีพระภาคเจ้า. รัศมีเหล่านั้นพุ่งจากพระสรีระของพระพุทธเจ้า
ทั้งสองพระองค์ไปจรด
ของเหล่าเทพ แล้วตั้งอยู่ที่ขอบปากจักรวาล. ห้องจักรวาลทั้งสิ้นรุ่งเรืองดัง
เรือนพระเจดีย์ที่มีไม้จันทันโค้งที่แล้วไปด้วยเงินรึงรัดไว้แล้วฉะนั้น. เทวดา
ในหมื่นจักรวาล รวมเป็นกลุ่มในจักรวาลเดียวเข้าไปตั้งอยู่ในระหว่างห้องรัศมี
ของพระพุทธเจ้าทั้งสองพระองค์. เมื่อพระพุทธเนรมิตกำลังประทับนั่งอยู่นั่น
แล ชมเชยการละกิเลสที่โพธิบัลลังก์ของพระทศพล จึงตรัสคาถาว่า
๑๔/๒๔๖/๑๐๒
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น