วันอังคาร, พฤษภาคม 14, 2567

Ton

 
พึงทราบคาถาว่า วิสชฺช คนฺถานิ มุนีสละแล้วซึ่งกิเลสเครื่องร้อย-
รัดทั้งหลายในโลกนี้ ดังนี้เป็นต้นต่อไป. ในบทเหล่านั้น บทว่า อนุคฺคโห
คือเว้นจากความถือมั่น. ชื่อ อนุคฺคโห เพราะไม่มีการถือมั่น หรือเพราะ
ไม่ถือมั่น. บทว่า คนฺเถ โวสฺสชฺชิตฺวา วา วางกิเลสเครื่องร้อยรัด
ทั้งหลาย คือสละกิเลสเครื่องร้อยรัดทั้งหลายมีอภิชฌาเป็นต้น. บทว่า
วิสชฺช สละแล้ว คือละโดยไม่ยึดมั่นอีก. บทว่า คถิเต รัด คือผูกแน่น.
บทว่า คนฺถิเต พัน คือพันไว้เหมือนจับด้าย. บทว่า พนฺเธ เหนี่ยวรั้ง
คือรั้งไว้อย่างดี. บทว่า วิพนฺเธ เกาะเกี่ยว คือเกาะเกี่ยวหลายอย่าง.
บทว่า ปลิพุทฺเธ พัวพัน คือผูกติดกันโดยรอบ. บทว่า พนฺธเน ผูก
ไว้ คือผูกไว้ด้วยกิเลส. บทว่า โผฏยิตฺวา คือ คลายแล้ว. บทว่า สชฺชํ
วิสชฺชํ กโรนฺติ ทำการปลดปล่อย คือทำให้เป็นของใช้ไม่ได้. บทว่า
วิโกปนฺติ คือ ทำให้แหลกไปเป็นชิ้น ๆ. มีอะไรที่จะกล่าวยิ่งกว่านั้นอีก
มีดังต่อไปนี้.
นรชนเห็นปานนั้นพึงทราบคาถาว่า ปุพฺพาสเว มุนีละอาสวะอันมี
ก่อน ดังนี้เป็นต้นต่อไป.
ในบทเหล่านั้น บทว่า ปุพฺพาสเว ได้แก่ กิเลสอันเกิดขึ้นปรารภ
รูปในอดีตเป็นต้น. บทว่า นเว ไม่ทำอาสวะใหม่ ได้แก่ กิเลสอันเกิดขึ้น
ปรารภรูปในปัจจุบันเป็นต้น. บทว่า น ฉนฺทคู ไม่เป็นผู้ดำเนินไปด้วย
ความพอใจ คือไม่ไปด้วยอำนาจฉันทาคติเป็นต้น. บทว่า อนตฺตครหี ไม่
เป็นผู้ติเตียนตนอาทิผิด อักขระ คือไม่ติเตียนตนด้วยการกระทำและไม่กระทำ อย่างนี้แล
ชื่อว่าไม่ติเตียนตน. พึงทราบคาถาต่อไปว่า ส สพฺพธมฺเมสุ มุนีนั้น
กำจัดเสนาในธรรมทั้งปวง.

๑. ม. สจฺจํ.
 
๖๖/๖๙๙/๒๗๕

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น