วันจันทร์, กันยายน 30, 2567

Sabiang

 
ดังนี้ ฉันใด ศัตรูของเขาย่อมไม่ได้โอกาส เขาเป็นผู้ไม่ประมาท จึงได้เล่นงาน
นักขัตฤกษ์แล้วเปล่งอุทานว่า อโห วันนักขัตฤกษ์ดังนี้ ฉันใด ภิกษุก็ฉัน
นั้นเหมือนกัน คิดว่า ขึ้นชื่อว่า ถีนมิทธะนี้ กระทำความฉิบหายใหญ่ดัง
นี้ จึงเจริญธรรม ๖ อย่าง ละถีนมิทธะได้ ภิกษุนั้นชื่อว่าละถีนมิทธะแล้ว
อย่างนี้ บุรุษผู้พ้นจากเครื่องจองจำเล่นงานนักขัตฤกษ์ตลอดเบื้องต้น
ท่ามกลาง และที่สุดได้แม้ทั้ง ๗ วัน ก็เสวยอยู่ทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง และที่สุด
แห่งธรรมนักขัตต์ ฉันใด บรรลุพระอรหัต พร้อมทั้งปฏิสัมภิทา ฉันนั้น
เหมือนกัน. เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสการละถีนมิทธะ เหมือน
การพ้นจากเครื่องจองจำ.
เหมือนอย่างว่า ทาสเข้าไปอาศัยมิตรคนใดคนหนึ่ง ให้ทรัพย์แก่
นาย กระทำตนให้เป็นไทได้แล้ว จำเดิมแต่นั้นมา พึงทำสิ่งที่ตนปรารถนา
ได้ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้นเหมือนกัน คิดว่าขึ้นชื่อว่า อุทธัจจกุกกุจจะกระทำ
ความฉิบหายใหญ่ ดังนี้ จึงเจริญธรรม ๖ อย่าง แล้วละอุทธัจจกุกกุจจะ
ได้. ภิกษุนั้นชื่อว่า ละอุทธัจจกุกกุจจะแล้วด้วยอาการอย่างนี้ บุรุษผู้เป็นไท
แก่ตัว ปรารถนาจะทำสิ่งใดก็ทำสิ่งนั้นได้ ใครจะยับยั้งเขาจากการกระทำ
นั้นโดยพลการไม่ได้ ฉันใด ภิกษุย่อมปฏิบัติเนกขัมมปฏิปทาตามสบาย
ฉันนั้นเหมือนกัน อุทธัจจกุกกุจจะใครๆ จะยังเธอให้กลับจากเนกขัมมปฏิปทา
นั้นมาสู่อุทธัจจกุกกุจจะโดยพลการไม่ได้. เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาค
เจ้า จึงตรัสการละอุทธัจจกุกกุจจะได้เหมือนความเป็นไท.
เหมือนอย่างว่า บุรุษผู้มีกำลังถือเสบียงอาทิผิด สระกรังตระเตรียมอาวุธพร้อม
กับบริวารดำเนินไปสู่ทางกันดาร พวกโจรเห็นเขาแต่ไกลพึงหนีไป บุรุษ
นั้น ก็ผ่านทางกันดารนั้นไปถึงความปลอดภัยได้ด้วยความสวัสดี พึงเป็นผู้
ร่าเริงยินดีแล้ว ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้นเหมือนกัน คิดว่า ชื่อว่า วิจิกิจฉานี้
ย่อมกระทำความฉิบหายมิใช่ประโยชน์ ดังนี้ จึงเจริญธรรม ๖ อย่างแล้วละ
 
๑๙/๔๗๘/๒๓๑

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น