วันพุธ, กันยายน 18, 2567

Wa

 
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า นาคํ โอคาหมุตฺติณฺณํ ความว่า
ช้างทำการลงคือลงในแน่น้ำแล้วขึ้นจากแม่น้ำนั้น. อีกอย่างหนึ่ง ปาฐะว่า
โอคยฺห อุตฺติณฺณํ ลงแล้วขึ้น ดังนี้ ม อักษรทำหน้าที่เชื่อมบท. บทว่า
นทีตีรมฺหิ อทฺทสํ ความว่า ได้เห็นที่ฝั่งแห่งแม่น้ำจันทภาคา.
บทว่า ปุริโส เป็นต้นที่กล่าวเพื่อแสดงความนี้ว่า ทำอะไร.
บาทคาถาว่า เทหิ ปาทนฺติ ยาจติ ในคาถานั้น ความว่าอาทิผิด อักขระ ให้สัญญาเหยียด
เท้าเพื่อขึ้นหลัง ว่าจงให้เท้า ก็ผู้ให้สัญญาตามที่ฝึกกัน ไว้ ท่านกล่าวในที่นี้ว่า
ยาจติ.
บทว่า ทิสฺวา อทนฺตํ ทมิตํ ความว่า ตามปกติช้างที่ไม่เคยฝึก
มาก่อน บัดนี้ได้รับการฝึกที่นายหัตถาจารย์ฝึกด้วยการศึกษาสำหรับช้าง
ประกอบความว่า ฝึกเช่นไรจึงอยู่ในอำนาจของมนุษย์ทั้งหลาย เห็นช้างที่พวก
มนุษย์บังคับนั้น ๆ. บทว่า ขลุ ในบทว่า ตโต จิตฺตํ สมาเธสึ ขลุ
ตาย วนํ คตา เป็นนิบาตลงในอรรถห้ามความอื่น ความว่า หลังจากนั้น
คือจากที่เห็นช้าง ข้าพเจ้าไปยังวนะคือป่า ทำจิตให้เป็นสมาธิทีเดียว ด้วย
กิริยาของช้างนั้นเป็นเหตุอย่างไร ข้าพเจ้าคิดว่า ช้างแม้นี้ชื่อว่าเป็นดิรัจฉาน
ยังถึงการฝึกด้วยความสามารถของผู้ฝึกช้างได้ เหตุไรจิตของเราผู้เป็นมนุษย์
จึงจักไม่ถึงการฝึก ด้วยความสามารถของพระศาสดาผู้ฝึกคนเล่า ดังนี้ เกิด
ความสังเวชเจริญวิปัสสนา ทำจิตของข้าพเจ้าให้เป็นสมาธิด้วยอรหัตมรรคสมาธิ
คือทำกิเลสให้สิ้นไปโดยประการทั้งปวงด้วยสมาธิอันแน่วแน่.
จบ อรรถกถาทันติกาเถรีคาถา
 
๕๔/๔๓๓/๘๙

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น