วันพฤหัสบดี, มกราคม 30, 2568

Kratham

 
สามเณร. เมื่อไม่ได้ด้วยบุญของท่าน ก็จักได้ด้วยบุญของผม ขอ
รับ.
ครั้งนั้น พระเถระให้ลูกกุญแจแก่สามเณรนั้นแล้ว ก็เข้าบ้านเพื่อ
บิณฑบาต. สามเณรนั้นไปวิหารแล้ว เปิดห้องของพระเถระเข้าไปแล้ว
ปิดประตู นั่งหยั่งญาณลงในกายของตนแล้ว. ด้วยเดชแห่งคุณของสามเณร
นั้น อาสนะของท้าวสักกะแสดงอาการร้อนแล้ว. ท้าวสักกะพิจารณาดูว่า
“ นี้เหตุอะไรหนอ ? ” เห็นสามเณรแล้ว ทรงดำริว่า “ สุขสามเณรถวาย
จีวรแก่อุปัชฌาย์แล้ว กลับ (วิหาร) ด้วยคิดว่า ‘ จักทำสมณธรรม ’ ควร
ที่เราจะไปในที่นั้น ” จึงรับสั่งให้เรียกท้าวมหาราชทั้ง ๔ แล้วทรงส่งไป
ด้วยดำรัสสั่งว่า “ พ่อทั้งหลาย พวกท่านจงไป. จงไล่นกที่มีเสียงเป็นโทษ
ใกล้ป่าแห่งวิหารให้หนีไป.” ท้าวมหาราชทั้งหลายนั้น กระทำตามนั้นแล้ว
ก็ (พากัน) รักษาอยู่โดยรอบ. ท้าวสักกะ ทรงบังคับพระจันทร์และ
พระอาทิตย์ว่า “ พวกท่านจงยึดวิมานของตนๆหยุดก่อน. ” แม้พระจันทร์
และพระอาทิตย์ก็กระทำอาทิผิด ตามนั้นแล้ว. แม้ท้าวสักกะเอง ก็ทรงรักษาอยู่ที่
สายยู. วิหารสงบเงียบปราศจากเสียง. สามเณรเจริญวิปัสสนาด้วยจิต
มีอารมณ์เป็นหนึ่ง บรรลุมรรคและผล ๓ แล้ว.
พระเถระ อันสามเณรกล่าวว่า “ ท่านพึงนำโภชนะมีรส ๑๐๐ ชนิด
มา ” ดังนี้แล้ว ก็คิดว่า “ อันเราอาจเพื่อได้ในตระกูลของใครหนอแล ? ”
พิจารณาดูอยู่ ก็เห็นตระกูลอุปัฏฐากผู้สมบูรณ์ด้วยอัธยาศัยตระกูลหนึ่ง จึง
ไปในตระกูลนั้น อันชนเหล่านั้น มีใจยินดีว่า “ ท่านผู้เจริญ ความดี
อันท่านผู้มาในที่นี้ ในวันนี้ กระทำแล้ว ” รับบาตรนิมนต์ให้นั่ง ถวาย
 
๔๒/๒๐/๑๓๗

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น