พระศาสดาทรงสถาปนาอุบาสกผู้หนึ่งในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นเลิศกว่าพวก
อุบาสกผู้ถวายทาน จึงกระทำกุศลให้ยิ่งยวดขึ้นไป ปรารถนาตำแหน่งนั้น.
เขาเวียนว่ายไปในเทวดาและมนุษย์ตลอดแสนกัป ในพุทธุปบาทกาลนี้มา
บังเกิดในเรือนของสุมนเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ชนทั้งหลายตั้งชื่อให้แก่เขาว่า
สุทัตตะ ต่อมาเขาดำรงอยู่ในฆราวาสวิสัย เป็นผู้ให้ทาน เป็นทานบดี
จึงได้มีชื่อว่า อนาถปิณฑิกะ อันเป็นชื่อที่เขาได้ปรารถนาไว้ เพราะ
คุณนั้นนั่นแหละ เขาใช้เกวียนอาทิผิด อักขระ ๕๐๐ เล่มบรรทุกสินค้า ไปยังเรือนของ
เศรษฐีผู้เป็นสหายรักของตนในกรุงราชคฤห์ ได้ยินว่า พระผู้มีพระภาค-
พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นแคว้นในที่นั้น ในเวลาจวนจะใกล้รุ่งเข้าไปเฝ้า
พระศาสดาทางประตูที่เปิดไว้ด้วยอำนาจของเทวดา ฟังธรรมแล้วตั้งอยู่ใน
โสดาปัตติผล ในวันที่ ๒ ถวายมหาทานแก่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็น
ประมุข ถือปฏิญญาของพระศาสดา เพื่อเสด็จมาสู่กรุงสาวัตถีอาทิผิด สระ ในทาง
๕๔ โยชน์ ในระหว่างทางให้ทานทรัพย์นับแสน ๆ ให้สร้างวิหารในระยะ
ทุกโยชน์ ปูลาดพระเชตวันด้วยเครื่องปูลาดราคานับโกฏิ ซื้อที่ดินด้วย
ทรัพย์ ๑๘ โกฏิ สร้างวิหารด้วยทรัพย์ ๑๘ โกฏิ เมื่อวิหารเสร็จแล้ว
ให้ทานตามที่ต้องการแก่บริษัท ในเวลาก่อนอาหารและหลังอาหาร
กระทำการฉลองวิหารด้วยทรัพย์ ๑๘ โกฏิ. การฉลองวิหารเสร็จสิ้นใน
เวลา ๙ เดือน. อาจารย์พวกอื่นอีกกล่าวว่า ในเวลา ๕ เดือน. แต่ข้อ
ทุ่มเถียงกันของอาจารย์ทั้งปวงเหล่านั้นไม่มี. เขาสละทรัพย์ ๕๔ โกฏิ โดย
อาการอย่างนี้ ทำทานเห็นปานนี้ให้เป็นไปในเรือนของตนตลอดกาลเป็น
นิตย์. ทุก ๆ วัน มีสลากภัต ๕๐๐ ที่ มีปักขิกภัต ๕๐๐ ที่ มีสลากยาคู
๕๐๐ ที่ มีปักขิยยาคู ๕๐๐ ที่ มีธุวภัต ๕๐๐ ที่ มีสลากภัตสำหรับ
อุบาสกผู้ถวายทาน จึงกระทำกุศลให้ยิ่งยวดขึ้นไป ปรารถนาตำแหน่งนั้น.
เขาเวียนว่ายไปในเทวดาและมนุษย์ตลอดแสนกัป ในพุทธุปบาทกาลนี้มา
บังเกิดในเรือนของสุมนเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ชนทั้งหลายตั้งชื่อให้แก่เขาว่า
สุทัตตะ ต่อมาเขาดำรงอยู่ในฆราวาสวิสัย เป็นผู้ให้ทาน เป็นทานบดี
จึงได้มีชื่อว่า อนาถปิณฑิกะ อันเป็นชื่อที่เขาได้ปรารถนาไว้ เพราะ
คุณนั้นนั่นแหละ เขาใช้
เศรษฐีผู้เป็นสหายรักของตนในกรุงราชคฤห์ ได้ยินว่า พระผู้มีพระภาค-
พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นแคว้นในที่นั้น ในเวลาจวนจะใกล้รุ่งเข้าไปเฝ้า
พระศาสดาทางประตูที่เปิดไว้ด้วยอำนาจของเทวดา ฟังธรรมแล้วตั้งอยู่ใน
โสดาปัตติผล ในวันที่ ๒ ถวายมหาทานแก่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็น
ประมุข ถือปฏิญญาของพระศาสดา เพื่อเสด็จมาสู่กรุง
๕๔ โยชน์ ในระหว่างทางให้ทานทรัพย์นับแสน ๆ ให้สร้างวิหารในระยะ
ทุกโยชน์ ปูลาดพระเชตวันด้วยเครื่องปูลาดราคานับโกฏิ ซื้อที่ดินด้วย
ทรัพย์ ๑๘ โกฏิ สร้างวิหารด้วยทรัพย์ ๑๘ โกฏิ เมื่อวิหารเสร็จแล้ว
ให้ทานตามที่ต้องการแก่บริษัท ในเวลาก่อนอาหารและหลังอาหาร
กระทำการฉลองวิหารด้วยทรัพย์ ๑๘ โกฏิ. การฉลองวิหารเสร็จสิ้นใน
เวลา ๙ เดือน. อาจารย์พวกอื่นอีกกล่าวว่า ในเวลา ๕ เดือน. แต่ข้อ
ทุ่มเถียงกันของอาจารย์ทั้งปวงเหล่านั้นไม่มี. เขาสละทรัพย์ ๕๔ โกฏิ โดย
อาการอย่างนี้ ทำทานเห็นปานนี้ให้เป็นไปในเรือนของตนตลอดกาลเป็น
นิตย์. ทุก ๆ วัน มีสลากภัต ๕๐๐ ที่ มีปักขิกภัต ๕๐๐ ที่ มีสลากยาคู
๕๐๐ ที่ มีปักขิยยาคู ๕๐๐ ที่ มีธุวภัต ๕๐๐ ที่ มีสลากภัตสำหรับ
๓๓/๑๕๑/๖๐
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น