กังสะ การหลอกลวงด้วยถาดทองนั้น ชื่อว่า กังสกูฏะ โกงด้วยสำริด. ถาม
ว่าโกงอย่างไร. ตอบว่า ทำถาดทองไว้ใบหนึ่ง แล้วทำถาดโลหะอื่น ๒-๓ ใบ
ให้มีสีเหมือนทอง จากนั้นเขาก็ไปสู่ชนบท เข้าไปสู่ตระกูลที่มั่งคั่งตระกูลหนึ่ง
แล้วพูดว่า ท่านได้โปรดซื้อภาชนะทองเถิด เมื่อถามถึงราคา ประสงค์จะ
ให้ราคาเท่า ๆ กัน เมื่อผู้ซื้อถามว่า จะรู้ได้อย่างไรว่าถาดเหล่านี้เป็นทอง
ผู้หลอกลวงกล่าวว่าทดลองแล้วค่อยรับไป แล้วขูดถาดทองลงที่หิน ขายถาด
ทั้งหมดแล้วก็ไป.
การโกงด้วยเครื่องวัดมี ๓ อย่างคือ หทยเภท ทำลายด้วยรู ๑ สิขาเภท
ทำลายยอด ๑ รัชชุเภท ทำลายด้วยเชือก ๑. ใน ๓ อย่างนั้น หทยเภทได้ใน
เวลาตวงเนยใสและน้ำมันเป็นต้น ด้วยว่า เมื่อรับของเหล่านั้น ใช้เครื่องวัด
อันมีรูข้างล่าง บอกว่าให้ค่อย ๆ เท แล้วให้ไหลลงในภาชนะของตนมาก ๆ
แล้วรับเอาไป เมื่อให้ก็ปิดรูรับทำให้เต็มแล้วให้. สิขาเภทได้ในเวลาตวงงาและ
ข้าวสารเป็นต้น ด้วยว่าเมื่อรับของเหล่านั้นค่อย ๆ ทำยอดให้สูง รับเอาไป
เมื่อให้รีบทำให้เต็มแล้วปาดยอดเสียจึงให้. รัชชุเภทได้ในเวลาวัดนาและที่ดิน
เป็นต้น ด้วยว่าเมื่อไม่ได้สินบน แม้นาไม่ใหญ่ ก็วัดให้ใหญ่ได้. พึงทราบ
วินิจฉัยในการฉ้อโกงเป็นต้น บทว่า ฉ้อโกง ได้แก่ รับสินบนเพื่อทำเจ้าของ
ไม่ให้เป็นเจ้าของ. บทว่า วญฺจนํ ได้แก่การหลอกลวงผู้อื่นด้วยอุบายนั้น ๆ.
ในบททั้งสองนั้นมีเรื่องหนึ่งเป็นตัวอย่างดังนี้
ได้ยินว่า พรานคนหนึ่งจับอาทิผิด อักขระ เนื้อ และลูกเนื้อเดินมา. นักเลงคนหนึ่ง
พูดกะพรานนั้นว่า พ่อพราน เนื้อราคาเท่าไร ลูกเนื้อราคาเท่าไร. เมื่อพราน
บอกว่า พ่อเนื้อสองกหาปณะ ลูกเนื้อหนึ่งกหาปณะ. นักเลงจึงให้กหาปณะ
หนึ่งแล้วเอาลูกเนื้อไป ครั้นไปได้หน่อยหนึ่งก็กลับมาอีก พูดว่า พ่อพราน
เราไม่ต้องการลูกเนื้อ จงให้พ่อเนื้อแก่เรา. พรานพูดว่า ถ้าเช่นนั้น ท่านจง
ว่าโกงอย่างไร. ตอบว่า ทำถาดทองไว้ใบหนึ่ง แล้วทำถาดโลหะอื่น ๒-๓ ใบ
ให้มีสีเหมือนทอง จากนั้นเขาก็ไปสู่ชนบท เข้าไปสู่ตระกูลที่มั่งคั่งตระกูลหนึ่ง
แล้วพูดว่า ท่านได้โปรดซื้อภาชนะทองเถิด เมื่อถามถึงราคา ประสงค์จะ
ให้ราคาเท่า ๆ กัน เมื่อผู้ซื้อถามว่า จะรู้ได้อย่างไรว่าถาดเหล่านี้เป็นทอง
ผู้หลอกลวงกล่าวว่าทดลองแล้วค่อยรับไป แล้วขูดถาดทองลงที่หิน ขายถาด
ทั้งหมดแล้วก็ไป.
การโกงด้วยเครื่องวัดมี ๓ อย่างคือ หทยเภท ทำลายด้วยรู ๑ สิขาเภท
ทำลายยอด ๑ รัชชุเภท ทำลายด้วยเชือก ๑. ใน ๓ อย่างนั้น หทยเภทได้ใน
เวลาตวงเนยใสและน้ำมันเป็นต้น ด้วยว่า เมื่อรับของเหล่านั้น ใช้เครื่องวัด
อันมีรูข้างล่าง บอกว่าให้ค่อย ๆ เท แล้วให้ไหลลงในภาชนะของตนมาก ๆ
แล้วรับเอาไป เมื่อให้ก็ปิดรูรับทำให้เต็มแล้วให้. สิขาเภทได้ในเวลาตวงงาและ
ข้าวสารเป็นต้น ด้วยว่าเมื่อรับของเหล่านั้นค่อย ๆ ทำยอดให้สูง รับเอาไป
เมื่อให้รีบทำให้เต็มแล้วปาดยอดเสียจึงให้. รัชชุเภทได้ในเวลาวัดนาและที่ดิน
เป็นต้น ด้วยว่าเมื่อไม่ได้สินบน แม้นาไม่ใหญ่ ก็วัดให้ใหญ่ได้. พึงทราบ
วินิจฉัยในการฉ้อโกงเป็นต้น บทว่า ฉ้อโกง ได้แก่ รับสินบนเพื่อทำเจ้าของ
ไม่ให้เป็นเจ้าของ. บทว่า วญฺจนํ ได้แก่การหลอกลวงผู้อื่นด้วยอุบายนั้น ๆ.
ในบททั้งสองนั้นมีเรื่องหนึ่งเป็นตัวอย่างดังนี้
ได้ยินว่า พรานคนหนึ่ง
พูดกะพรานนั้นว่า พ่อพราน เนื้อราคาเท่าไร ลูกเนื้อราคาเท่าไร. เมื่อพราน
บอกว่า พ่อเนื้อสองกหาปณะ ลูกเนื้อหนึ่งกหาปณะ. นักเลงจึงให้กหาปณะ
หนึ่งแล้วเอาลูกเนื้อไป ครั้นไปได้หน่อยหนึ่งก็กลับมาอีก พูดว่า พ่อพราน
เราไม่ต้องการลูกเนื้อ จงให้พ่อเนื้อแก่เรา. พรานพูดว่า ถ้าเช่นนั้น ท่านจง
๓๕/๑๙๘/๕๒๘
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น