วันอังคาร, ธันวาคม 01, 2563

Duai

 
สัญญาด้วยวิญญาณัญจายตนสมาบัติ การละวิญญาณัญจายตนสัญญา
ด้วยอากิญจัญญายตนสมาบัติ การละอากิญจัญญาอาทิผิด ยตนสัญญาด้วยเนว-
สัญญานาสัญญายตนสมาบัติ การละนิจสัญญาด้วยอนิจจานุปัสนา การ
ละสุขสัญญาด้วยทุกขานุปัสนา การละอัตสัญญาด้วยอนัตตานุปัสนา
การละนันทิด้วยนิพพิทานุปัสนา การละราคะด้วยวิราคานุปัสนา การ
ละสมุทัยด้วยนิโรธานุปัสนา การละอาทานะด้วยปฏินิสสัคคานุปัสนา
การละฆนสัญญาด้วยขยานุปัสนา การละอายุหนะด้วยวยานุปัสนา การ
ละธุวสัญญาด้วยวิปริณาตานุปัสนา การละนิมิตด้วยอนิมิตตานุปัสนา
การละปณิธิด้วยอัปปณิหิตานุปัสนา การละอภินิเวสด้วยสุญญตานุปัสนา
การละสาราทานาภินิเวสด้วยอธิปัญญาธรรมวิปัสสนา การละสัมโมหา
ภินิเวสด้วยยถาภูตญาณทัสนะ การละอาลยาภินิเวสด้วยอาทีนวานุปัสนา
การละอัปปฏิสังขาด้วยอาทิผิด อาณัติกะปฏิสังขานุปัสสนา การละสังโยคาภินิเวสด้วย
วิวัฏฏนานุปัสนา การละกิเลสที่ตั้งอยู่ร่วมกันกับทิฏฐิด้วยโสดาปัตติมรรค
การละกิเลสที่หยาบ ๆ ด้วยสกทาคามิมรรค การละกิเลสที่ละเอียดด้วย
อนาคามิมรรค การละกิเลสทั้งปวงด้วยอรหัตมรรค การละนั้น ๆ เป็น
ศีล เวรมณีเป็นศีล . . .เมื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ควรทำให้แจ้ง ชื่อว่า
ย่อมศึกษา.
ชื่อว่าญาณ เพราะอรรถว่ารู้ธรรมนั้น ๆ ชื่อว่าปัญญา เพราะ
อรรถว่ารู้ชัด เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า ปัญญาในการฟังธรรมแล้ว
สำรวมไว้เป็นสีลมยญาณ.
 
๖๘/๙๑/๕๔๘

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก