บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า รูเป ความว่าเป็นเหตุแห่งรูป
คือ เป็นนิมิตแห่งความเกิดขึ้นแห่งรูป. แม้ในบทว่า อายุนา แปลว่า
ด้วยชีวิต. ก็ชีวิตของเทวดาทั้งหลาย ท่านกล่าวมีกำหนดเป็น
ประมาณมิใช่หรือ ? ท่านกล่าวจริง. แต่ชีวิตนั้นท่านกล่าวไว้โดย
ส่วนมาก. จริงอย่างนั้น เทวดาบางเหล่า ย่อมมีการตายในระหว่าง
ทีเดียว เพราะความวิบัติแห่งความพยายามเป็นต้น. ส่วนอินทก-
เทพบุตร ยัง ๓ โกฏิ ๖ ล้านปีให้บริบูรณ์เท่านั้น. เพราะเหตุนั้น
ท่านจึงกล่าวว่า ย่อมไพโรจน์ล่วงด้วยอายุ. บทว่า ยสสา ได้แก่
สมบูรณ์ด้วยบริวารใหญ่. บทว่า วณฺเณน ความว่า ด้วยความ
สมบูรณ์ด้วยทรวดทรง. แต่ความสมบูรณ์ด้วยวรรณธาตุ ท่าน
กล่าวไว้ด้วยบทว่า รูเป ดังนี้นั่นเอง. บทว่า อาธิปจฺเจน แปลว่า
ด้วยความเป็นใหญ่.
เมื่ออังกุรเทพบุตร และอินทกเทพบุตร บังเกิดในภพชั้น
ดาวดึงส์ เสวยทิพยสมบัติ พระผู้มีพระภาคเจ้าของเราทั้งหลาย
ทรงกระทำยมก ปาฏิหาริย์อาทิผิด ณ โคนแห่งคัณฑามพฤกษ์ ที่ประตูแห่ง
กรุงสาวัตถี ในวันอาสาฬหปุณณมี ในปีที่ ๗ แต่กาลตรัสรู้
เสด็จไปยังภพชั้นดาวดึงส์โดยอาทิผิด อักขระ ย่างก้าวไป ๓ ก้าวโดยลำดับ ทรง
ครอบงำความรุ่ง เรืองอาทิผิด อาณัติกะ ของเทวพรหมบริษัท ผู้ประชุมกันด้วย
โลกธาตุ ณ บัณฑุกัมพลอาทิผิด สระ ศิลาอาสน์ ที่ควงต้นปาริฉัตตกะ ด้วย
รัศมีพระสรีระของพระองค์ เหมือนพระสุริโยทัยทอแสงอ่อน ๆ
เหนือเขายุคนธรรุ่ง เรืองอาทิผิด อาณัติกะ อยู่ฉะนั้น ประทับนั่งอาทิผิด อักขระ แสดงอภิธรรม
คือ เป็นนิมิตแห่งความเกิดขึ้นแห่งรูป. แม้ในบทว่า อายุนา แปลว่า
ด้วยชีวิต. ก็ชีวิตของเทวดาทั้งหลาย ท่านกล่าวมีกำหนดเป็น
ประมาณมิใช่หรือ ? ท่านกล่าวจริง. แต่ชีวิตนั้นท่านกล่าวไว้โดย
ส่วนมาก. จริงอย่างนั้น เทวดาบางเหล่า ย่อมมีการตายในระหว่าง
ทีเดียว เพราะความวิบัติแห่งความพยายามเป็นต้น. ส่วนอินทก-
เทพบุตร ยัง ๓ โกฏิ ๖ ล้านปีให้บริบูรณ์เท่านั้น. เพราะเหตุนั้น
ท่านจึงกล่าวว่า ย่อมไพโรจน์ล่วงด้วยอายุ. บทว่า ยสสา ได้แก่
สมบูรณ์ด้วยบริวารใหญ่. บทว่า วณฺเณน ความว่า ด้วยความ
สมบูรณ์ด้วยทรวดทรง. แต่ความสมบูรณ์ด้วยวรรณธาตุ ท่าน
กล่าวไว้ด้วยบทว่า รูเป ดังนี้นั่นเอง. บทว่า อาธิปจฺเจน แปลว่า
ด้วยความเป็นใหญ่.
เมื่ออังกุรเทพบุตร และอินทกเทพบุตร บังเกิดในภพชั้น
ดาวดึงส์ เสวยทิพยสมบัติ พระผู้มีพระภาคเจ้าของเราทั้งหลาย
ทรงกระทำ
กรุงสาวัตถี ในวันอาสาฬหปุณณมี ในปีที่ ๗ แต่กาลตรัสรู้
เสด็จไปยังภพชั้นดาวดึงส์
ครอบงำความ
โลกธาตุ ณ บัณฑุ
รัศมีพระสรีระของพระองค์ เหมือนพระสุริโยทัยทอแสงอ่อน ๆ
เหนือเขายุคนธร
๔๙/๑๐๖/๒๘๖
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น