วันพุธ, ตุลาคม 28, 2563

Chueng

 
จาก ๗ หลังคาเรือน เข้าไปในฉางเปล่าของพราหมณ์นั้น กระโดดโลดเต้น
เหมือนเล่นกีฬาในสวน เขาอาทิผิด กำหนดเรื่องนั้น จึงกล่าวอย่างนี้.
บทว่า อุปฺปาทเกหิ สญฺฉนฺนโน ความว่า ดาดาษไปด้วยสัตว์เล็ก ๆ
ที่เกิดขึ้น ได้ยินว่าเครื่องปูลาดที่ทำด้วยหญ้าและใบไม้ ที่ปูลาดไว้ให้พราหมณ์
นั้นนอน ไม่มีใคร ๆ ปัดกวาดเป็นครั้งคราวเลย. พราหมณ์ทำงานในป่าตลอด
วัน มาในเวลาเย็น นอนบนเครื่องปูลาดนั้น. ลำดับนั้น แมลงเล็ก ๆ ที่เกิด
ขึ้น ย่อมเกาะกินสรีระของพราหมณ์นั้นเต็มไปหมด เขาถือเอาเรื่องนั้นจึงกล่าว
อย่างนี้
บทว่า วิธวา ได้แก่หญิงสามีตาย. ได้ยินว่า หญิงทั้งหลายแม้เป็น
หม้าย ก็ยังได้อยู่ในตระกูลสามีชั่วเวลาที่ยังมีสมบัติอยู่ในเรือนของพราหมณ์นั้น
แต่เมื่อใดเขาไร้ทรัพย์ เมื่อนั้นหญิงทั้งหลายที่ถูกแม่ผัวพ่อผัวเป็นต้นขับไล่ว่า
จงไปเรือนบิดา ดังนี้ ย่อมมาอยู่เรือนของพราหมณ์นั้นแหละ. ในเวลาพราหมณ์
บริโภค ชนเหล่าใดส่งบุตรไปว่า พวกเจ้าจงไปบริโภคร่วมกับพระผู้เป็นเจ้า
เมื่อชนเหล่านั้นหย่อนมือลงในถาด พราหมณ์ใดไม่ได้โอกาสจะใช้มือ (หยิบ
อาหาร) เขาหมายถึงพราหมณ์นั้นจึงอาทิผิด สระกล่าวคาถานี้.
บทว่า ปิงฺคลา ได้แก่มดดำมดแดงมดเหลือง. บทว่า ติลกาหตา
ได้แก่ มีตัวตกกระ มีสีดำและขาวเป็นต้น. บทว่า โสตฺตํ ปาเทน โปเถติ
ได้แก่ ใช้เท้าไต่ตอมปลุกผู้ที่นอนหลับให้ตื่น. ได้ยินว่าพราหมณ์นี้รำคาญด้วย
เสียงหนูและถูกแมลงเล็ก ๆ กัด ไม่ได้หลับตลอดคืน มาหลับได้เมื่อใกล้สว่าง
ลำดับนั้น พราหมณ์พอลืมตาขึ้นเท่านั้น เจ้าหนี้คนหนึ่งก็กล่าวกะพราหมณ์นั้น
ว่าจะทำอย่างไรละพราหมณ์ หนี้ที่ท่านกู้ในภายหลังและเมื่อก่อน ดอกเบี้ยเพิ่ม-
พูนขึ้น ท่านยังจะต้องเลี้ยงธิดา ๗ คน บัดนี้ พวกเจ้าหนี้มาล้อมเรือน ท่าน
 
๒๕/๖๗๐/๒๓๙

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก