ภิกษุใดแลกำจัดความโกรธที่บังเกิด
ขึ้นแล้ว เหมือนหมองูกำจัดพิษงูที่ซ่านไป
แล้วด้วยโอสถฉะนั้น ดังนี้.
เรื่องเดียวกันนี้เอง ถึงการสงเคราะห์ (ปรากฏว่ามีอยู่) ในที่มา
๓อาทิผิด แห่ง คือ ในวินัย ในธรรมบท (และ) ในสุตตนิบาต ด้วยประการฉะนี้
ก็ด้วยคำเพียงเท่านี้ มาติกานั้นใด ท่านตั้งไว้แล้วว่า
คาถานี้ ใครกล่าว ? กล่าวที่ไหน ?
กล่าวเมื่อใด ? กล่าวเพราะเหตุไร ? ข้าพเจ้า
จักประกาศวิธีนี้ แล้วอธิบายความแห่งคำนั้น
มาติกานั้น เป็นอันข้าพเจ้าประกาศแล้วทั้งโดยย่อทั้งโดยพิสดาร ยกเว้นการ
อธิบายความ (เท่านั้น ) ก็ในคาถาที่หนึ่งนี้ มีอรรถาธิบายดังต่อไป :-
บทว่า โย ได้แก่ ภิกษุใด คือเช่นไร คือบวชจากขัตติยสกุลก็ตาม
บวชจากพราหมณสกุลก็ตาม จะเป็นผู้บวชใหม่ก็ตาม จะเป็นพระมัชฌิมะก็ตาม
จะเป็นพระเถระก็ตาม.
บทว่า อุปฺปติตํ ได้แก่ ที่ตกไปแล้ว ที่ไปแล้ว ที่เป็นไปแล้ว
เบื้องบน ๆ มีคำอธิบายว่าที่บังเกิดขึ้นแล้ว.
ธรรมดาว่า ความโกรธที่บังเกิดขึ้นนี้ มีหลายประเภท คือ
วัตตมานะ ๑ ภุตวาปคตะ ๑ โอกาสกตะ ๑ ภูมิลัทธะ ๑.
บรรดาความโกรธทั้ง ๔ ประเภทนั้น ความพร้อมเพรียงแห่งการ
บังเกิดขึ้นเป็นต้น ที่ถูกปัจจัยปรุงแต่งแม้ทั้งหมด ชื่อว่า วัตตมานุปปันนะ
ขึ้นแล้ว เหมือนหมองูกำจัดพิษงูที่ซ่านไป
แล้วด้วยโอสถฉะนั้น ดังนี้.
เรื่องเดียวกันนี้เอง ถึงการสงเคราะห์ (ปรากฏว่ามีอยู่) ในที่มา
ก็ด้วยคำเพียงเท่านี้ มาติกานั้นใด ท่านตั้งไว้แล้วว่า
คาถานี้ ใครกล่าว ? กล่าวที่ไหน ?
กล่าวเมื่อใด ? กล่าวเพราะเหตุไร ? ข้าพเจ้า
จักประกาศวิธีนี้ แล้วอธิบายความแห่งคำนั้น
มาติกานั้น เป็นอันข้าพเจ้าประกาศแล้วทั้งโดยย่อทั้งโดยพิสดาร ยกเว้นการ
อธิบายความ (เท่านั้น ) ก็ในคาถาที่หนึ่งนี้ มีอรรถาธิบายดังต่อไป :-
บทว่า โย ได้แก่ ภิกษุใด คือเช่นไร คือบวชจากขัตติยสกุลก็ตาม
บวชจากพราหมณสกุลก็ตาม จะเป็นผู้บวชใหม่ก็ตาม จะเป็นพระมัชฌิมะก็ตาม
จะเป็นพระเถระก็ตาม.
บทว่า อุปฺปติตํ ได้แก่ ที่ตกไปแล้ว ที่ไปแล้ว ที่เป็นไปแล้ว
เบื้องบน ๆ มีคำอธิบายว่าที่บังเกิดขึ้นแล้ว.
ธรรมดาว่า ความโกรธที่บังเกิดขึ้นนี้ มีหลายประเภท คือ
วัตตมานะ ๑ ภุตวาปคตะ ๑ โอกาสกตะ ๑ ภูมิลัทธะ ๑.
บรรดาความโกรธทั้ง ๔ ประเภทนั้น ความพร้อมเพรียงแห่งการ
บังเกิดขึ้นเป็นต้น ที่ถูกปัจจัยปรุงแต่งแม้ทั้งหมด ชื่อว่า วัตตมานุปปันนะ
๔๖/๒๙๔/๑๒
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น