วรรคที่ ๒
อรรถกถาสูตรที่ ๑-๒
ประวัติพระจุลลปัณฐกเถระ และพระมหาปัณฐกเถระ
วรรคที่ ๒ สูตรที่ ๑ พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า มโนมยํ ความว่า กายที่บังเกิดขึ้นด้วยใจ ในอาคตสถาน
ที่ตรัสไว้ว่า “เข้าไปหาแล้วด้วยมโนมยิทธิทางกาย” ชื่อว่ากาย-
มโนมัย. กายที่บังเกิดขึ้นด้วยใจในอาคตสถานที่กล่าวไว้ว่า “ย่อม
เข้าถึงกายอาทิผิด อัน สำเร็จด้วยใจอย่างใดอย่างหนึ่ง” ก็ชื่อว่ากายมโนมัย.
ในที่นี้ ประสงค์เอากายมโนมัยนี้.
ในกายทั้ง ๒ อย่างนี้ ภิกษุทั้งหลายเหล่าอื่น เมื่อทำมโนมัย-
กายให้เกิดขึ้น ก็ทำให้เกิดขึ้น ๓ บ้าง ๔ บ้าง แต่ทำคนมากให้
บังเกิดเป็นเหมือนคนเดียวกันไม่ได้, ชื่อว่ากระทำกรรมได้อย่าง
เดียวเท่านั้น. ส่วนพระเถระชื่อว่าจุลลปัณฐก นิรมิตพระ ๑,๐๐๐ รูป
ได้ด้วยอาวัชชนะเดียว แต่กระทำแก่ ๒ คนให้เสมือนเป็นคน ๆ เดียว
กันไม่ได้ ชื่อว่ากระทำกรรมอย่างเดียวไม่ได้. เพราะฉะนั้น ท่าน
ชื่อว่า เป็นยอดของเหล่าภิกษุผู้นิรมิตมโนมัยกาย. พระจุลลปัณฐก
นับว่าเป็นยอดของเหล่าภิกษุ คือภิกษุผู้ฉลาดในเจโตวิวัฏฏะ. ส่วน
พระมหาปัณฐกเถระท่านกล่าวว่าเป็นยอดของเหล่าภิกษุผู้ฉลาด
ในปัญญาวิวัฏฏะ. บรรดาทั้งสองรูปนั้น พระจุลลปัณฐกเถระท่าน
กล่าวว่าเป็นผู้ฉลาดในเจโตวิวัฏฏะ เพราะได้รูปาวจรฌาน ๔.
พระมหาปัณฐกเถระท่านกล่าวว่า เป็นผู้ฉลาดในปัญญาวิวัฏฏะ
อรรถกถาสูตรที่ ๑-๒
ประวัติพระจุลลปัณฐกเถระ และพระมหาปัณฐกเถระ
วรรคที่ ๒ สูตรที่ ๑ พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า มโนมยํ ความว่า กายที่บังเกิดขึ้นด้วยใจ ในอาคตสถาน
ที่ตรัสไว้ว่า “เข้าไปหาแล้วด้วยมโนมยิทธิทางกาย” ชื่อว่ากาย-
มโนมัย. กายที่บังเกิดขึ้นด้วยใจในอาคตสถานที่กล่าวไว้ว่า “ย่อม
เข้าถึง
ในที่นี้ ประสงค์เอากายมโนมัยนี้.
ในกายทั้ง ๒ อย่างนี้ ภิกษุทั้งหลายเหล่าอื่น เมื่อทำมโนมัย-
กายให้เกิดขึ้น ก็ทำให้เกิดขึ้น ๓ บ้าง ๔ บ้าง แต่ทำคนมากให้
บังเกิดเป็นเหมือนคนเดียวกันไม่ได้, ชื่อว่ากระทำกรรมได้อย่าง
เดียวเท่านั้น. ส่วนพระเถระชื่อว่าจุลลปัณฐก นิรมิตพระ ๑,๐๐๐ รูป
ได้ด้วยอาวัชชนะเดียว แต่กระทำแก่ ๒ คนให้เสมือนเป็นคน ๆ เดียว
กันไม่ได้ ชื่อว่ากระทำกรรมอย่างเดียวไม่ได้. เพราะฉะนั้น ท่าน
ชื่อว่า เป็นยอดของเหล่าภิกษุผู้นิรมิตมโนมัยกาย. พระจุลลปัณฐก
นับว่าเป็นยอดของเหล่าภิกษุ คือภิกษุผู้ฉลาดในเจโตวิวัฏฏะ. ส่วน
พระมหาปัณฐกเถระท่านกล่าวว่าเป็นยอดของเหล่าภิกษุผู้ฉลาด
ในปัญญาวิวัฏฏะ. บรรดาทั้งสองรูปนั้น พระจุลลปัณฐกเถระท่าน
กล่าวว่าเป็นผู้ฉลาดในเจโตวิวัฏฏะ เพราะได้รูปาวจรฌาน ๔.
พระมหาปัณฐกเถระท่านกล่าวว่า เป็นผู้ฉลาดในปัญญาวิวัฏฏะ
๓๒/๑๔๖/๓๓๙
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น