วันพฤหัสบดี, มกราคม 20, 2565

Mit

 
ทั้งหมดนี้เหมือนตัวเรา.เมื่อยาจกไม่มี ทานบารมีของเราจะพึงเต็มได้อย่างไร
เราควรยึดถือทั้งหมดไว้เพื่อประโยชน์แก่ยาจกเท่านั้น. เมื่อไรยาจกทั้งหลาย
ไม่ขอเราพึงถือเอาของของเราไปเอง. เราพึงเป็นที่รักและเป็นที่ชอบของ
ยาจกทั้งหลายได้อย่างไร. ยาจกเหล่านั้นพึงเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของเรา
ได้อย่างไร. เราเมื่อให้ก็พอใจ แม้ให้แล้วก็ปลื้มใจ เกิดปีติโสมนัสได้อย่างไร
หรือยาจกทั้งหลายของเราพึงเป็นอย่างไร เราจึงจะเป็นผู้มีอัธยาศัยกว้าง-
ขวาง. ยาจกไม่ขอ เราจะรู้ใจของยาจกทั้งหลายได้อย่างไรแล้วจึงให้ เมื่อ
ทรัพย์มี ยาจกมี การไม่บริจาค เป็นการหลอกลวงของเราอย่างใหญ่หลวง.
เราพึงสละอวัยวะหรือชีวิตของตนแก่ยาจกทั้งหลายได้อย่างไร. อีกอย่างหนึ่ง
ควรทำจิตให้เกิดขึ้นเพราะไม่คำนึงถึงประโยชน์ว่า ชื่อว่าประโยชน์นี้ ย่อม
ติดตามทายกผู้ไม่สนใจ. เหมือนตั๊กแตนติดตามคนแผลงศรผู้ไม่สนใจ.
อนึ่ง ผิว่า ผู้ขอเป็นคนที่รัก พึงให้เกิดโสมนัสว่า ผู้เป็นที่รักขอ
เรา. แม้ผู้ขอเป็นคนเฉย ๆ พึงให้เกิดความโสมนัสว่า ยาจกนี้ขอเราย่อม
เป็นมิตรอาทิผิด ด้วยการบริจาคนี้แน่แท้. แม้ผู้ให้ก็ย่อมเป็นที่รักของยาจกทั้งหลาย
แม้บุคคลผู้มีเวรขอ ก็พึงให้เกิดโสมนัสเป็นพิเศษว่า ศัตรูขอเรา. ศัตรูนี้
เมื่อขอเราเป็นผู้มีเวร ย่อมเป็นมิตรที่รักด้วยการบริจาคนี้แน่แท้ พึงยัง
กรุณามีเมตตาเป็นเบื้องหน้าให้ปรากฏ แล้วพึงให้แม้ในบุคคลเป็นกลางและ
บุคคลมีเวร.
 
๗๔/๓๖/๕๙๘

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก