วันศุกร์, เมษายน 15, 2565

Mun

 
อัพยากตนิเทศ (บาลีข้อ ๓)
อธิบายความ
อัพยากฤต ทรงจำแนกไว้โดยลำดับที่มาในจิตตุปปาทกัณฑ์ ในหน
หลังแล้วนั้นแหละ ในวาระทั้งหมด ทรงลดนัยมีอวิชชาเป็นมูล เพราะเหตุไร ?
เพราะไม่มีธรรมที่ควรตั้งไว้ในฐานะแห่งอวิชชา จริงอยู่ ในกุศลจิตทั้งหลาย
มีกุศลมูลพึงตั้งในฐานะแห่งอวิชชา ในอเหตุกจิตมีจักขุวิญญาณเป็นต้น ก็ไม่มี
แต่ในสเหตุกจิตทั้งหลายมีกุศลมูลอาทิผิด อักขระอยู่โดยแท้ แม้เมื่อเป็นเช่นนั้น พระองค์จึง
ทรงตัดออกเสียในสเหตุกจิตนี้ ไม่ทรงถือเอาในอเหตุกจิตนั้น ในกระแสแห่ง
วิญญาณ ๕ พึงทราบว่า ทรงทำเทศนาเป็นสภาพให้ตกไปในกระแสเดียว
(คือแสดงโดยลำดับ ).
อนึ่ง ว่าโดยต่างกัน ในอัพยากฤตนี้ทรงลดฐานะแห่งตัณหา และอุปา-
ทานในอเหตุกจิตมีจักขุวิญญาณเป็นต้น เพราะเหตุไร ? เพราะไม่มีธรรมที่มี
กำลังอันควรแก่ฐานะแห่งตัณหา และเพราะเว้นจากอธิโมกข์ แต่ในอเหตุกจิตที่
เหลือ ทรงลดฐานะแห่งตัณหาโดยแท้.
ในสเหตุกจิตทั้งหลาย ทรงเพิ่มบทปสาทะ ในที่แห่งตัณหา เพราะ
เป็นสภาพแห่งความผ่องใส. บรรดาอัพยากฤตเหล่านี้ ในอเหตุกจิตมีจักขุวิญ-
ญาณเป็นต้นที่เป็นกุศลวิบาก และอกุศลวิบาก พึงทราบนัยอย่างละ ๖ ซึ่งมี
สังขาร วิญญาณ นาม สฬายตนะ ผัสสะ และเวทนาเป็นมูล ในอเหตุกจิต
ที่เหลือ พึงทราบว่า มีนัยอย่างละ ๗ กับนัยที่มีอธิโมกข์เป็นมูล. ส่วนใน
สเหตุกจิตทั้งหลาย พึงทราบนัยอย่างละ ๘ กับปสาทะเป็นมูล.
 
๗๗/๓๙๙/๖๘๕

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก