วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 19, 2565

Bang

 
ลักษณะ มีความทอดถอนถึงเป็นกิจ มีปราศจากความแช่มชื่นใจเป็นอาการ
ปรากฏ. ปัจจัยธรรมมีอวิชชาเป็นต้นเหล่านั้น พึงทราบแม้โดยลักษณะ
เป็นต้นด้วยประการอย่างนี้แล. ในที่นี้ มีความสังเขปเพียงเท่านี้ ส่วน
ความพิสดาร ผู้ปรารถนาวินิจฉัยที่สมบูรณ์ด้วยประการทั้งปวง พึงค้นดู
ในอรรถกถาวิภังค์ ชื่อสัมโมหวิโนทนี.
บทว่า เอวํ เป็นบทแสดงไขถึงนัยที่ได้แสดงมาแล้ว. ด้วยบทว่า
เอวํ นั้น ท่านแสดงว่าด้วยเหตุมีอวิชชาเป็นต้นนั้นแหละ มิใช่ด้วยเหตุ
มีการเนรมิตของท่านผู้เป็นใหญ่เป็นต้น. บทว่า เอตสฺส ได้แก่ ตามที่
กล่าวแล้ว. บทว่า เกวลสฺส ได้แก่ ไม่ปะปนหรือล้วน ๆ. บทว่า
ทุกฺขกฺขนฺธสฺส ได้แก่ประชุมทุกข์ ไม่ใช่ของสัตว์ทั้งไม่ใช่ของชีวะและ
ของสุขเป็นต้น . บทว่า สมุทโย โหติ ได้แก่ บังเกิด คือเกิดพร้อม.
บทว่า เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ความว่า รู้แจ้งเนื้อความที่กล่าวไว้ว่า
กองทุกข์มีสังขารเป็นต้น ย่อมเกิดด้วยอวิชชาเป็นต้น โดยอาการทั้งปวง.
บทว่า ตายํ เวลายํ ได้แก่ ในเวลาที่รู้แจ้งอรรถนั้น. บทว่า อิมํ อุทานํ
อุทาเนสิ ความว่า เปล่งอุทานนี้อันแสดงอานุภาพการรู้เหตุและธรรมอัน
เกิดจากเหตุในเมื่อรู้จักผลนั้น อันเป็นสมุฏฐานแห่งญาณอันสัมปยุตด้วย
โสมนัสมีอาทิว่า ยทา หเว ปาตุภวนฺติ อธิบายว่า เปล่งพระวาจาเป็นที่
พอพระทัย.
อุทานนั้นมีอธิบายดังนี้ บทว่า ยทา แปลว่า ในกาลใด. ศัพท์ว่า
หเว เป็นนิบาต ลงในอรรถนี้ว่า พยตฺตํ แจ่มแจ้ง. แต่อาจารย์บางอาทิผิด พวก
กล่าวอธิบายว่า ศัพท์ว่า หเว แปลว่า ในการสงครามคือในการต่อยุทธ์.
ก็ท่านอาจารย์เหล่านั้นมีความมุ่งหมายว่า ในสมัยรบกับกิเลสมาร โดย
 
๔๔/๓๘/๖๘

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก