วันศุกร์, พฤษภาคม 27, 2565

Chiphai

 
ตาย เสนาสนะของสงฆ์ก็ฉิบหายอาทิผิด อักขระ ไม่มีคุณเลย ดังนี้ สมควรอยู่, แม้ใน
อธิการนี้ พระอาจารย์บางพวกกล่าวว่า ไม่มีสินใช้เพราะเหลือวิสัย. ถ้าภิกษุ
อาคันตุกะบางรูป ไขกุญแจ หรือเปิดประตูไว้, พวกโจรลักภัณฑะไปเท่าใด
ภัณฑะเท่านั้นเป็นสินใช้แก่อาคันตุกะนั้นทั้งหมด. สลักยนต์และกุญแจ เป็น
ของที่สงฆ์ติดให้ไว้ เพื่อประโยชน์แก่การรักษาภัณฑาคาร. ภัณฑาคาริกใส่
เพียงลิ่มแล้วนอน. พวกโจรเปิดเข้าไปลักบริขาร เป็นสินใช้แก่เธอแท้. แต่
ภัณฑาคาริกนั้น ใส่สลักยนต์และกุญแจแล้วนอน, ถ้าพวกโจรมาบังคับว่า
จงเปิด เธอพึงปฏิบัติในคำของพวกโจรนั้น ตามนัยก่อนนั่นแล. ก็เมื่อ
ภัณฑาคาริกนั่นทำการรักษาอย่างนั้นแล้ว จึงนอน, ถ้าพวกโจรทำลายฝาหรือ
หลังคา หรือเข้าทางอุโมงค์ ลักไป, ไม่เป็นสินใช้แก่เธอ. ถ้าพระเถระแม้
เหล่าอื่นอยู่ในภัณฑาคาร เมื่อประตูเปิด ท่านจงถือเอาบริขารส่วนตัวไป
ภัณฑาคาริกไม่ระวังประตู ในเมื่อพระเถระเหล่านั้นไปแล้ว, ถ้าของอะไร ๆ
ในภัณฑาคารนั้นถูกลักไป, เป็นสินใช้แก่ภัณฑาคาริกเท่านั้น เพราะภัณฑา-
คาริกเป็นใหญ่. ฝ่ายพวกพระเถระพึงเป็นพรรคพวก. นี้เป็นสามีจิกรรม ใน
ภัณฑาคารนั้น. แต่ถ้าภัณฑาคาริกบอกว่า ขอพวกท่านจงยืนรับบริขารของ
พวกท่านข้างนอกเถิด อย่าเข้ามาเลย. และพระเถระโลเลรูปหนึ่ง แห่งพวก
พระเถระเหล่านั้น พร้อมด้วยสามเณรและอุปัฏฐากทั้งหลาย เปิดภัณฑาคารเข้า
ไปนั่งและนอน ภัณฑะหายไปเท่าใด เป็นสินใช้แก่พระเถระนั้นทั้งหมด
ฝ่ายภัณฑาคาริกและพระเถระที่เหลือ พึงเป็นพรรคพวก. ถ้าภิกษุภัณฑาคาริก
นั่นเองชวนเอาพวกสามเณรโลเล และเหล่าผู้อุปัฏฐาก ไปนั่งและนอนอยู่ใน
ภัณฑาคาร, สิ่งของใดในภัณฑาคารนั้นหายไป. ของทั้งหมดนั้น เป็นสินใช้
แก่ภิกษุภัณฑาคาริกเท่านั้น. เพราะเหตุนั้น ภิกษุภัณฑาคาริกเท่านั้น ควร
 
๒/๑๗๕/๑๙๑

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก