สีหาสนทายกเถราปทานที่ ๕ (๑๗๕)
ว่าด้วยผลแห่งการบูชาของหอมและถวายอาสนะทอง
[๑๗๗] เมื่อพระโลกนาถผู้เป็นนายกพระอาทิผิด สระ นาม ว่าปทุมุตตระ เสด็จ
นิพพานไปแล้ว เรามีจิตเลื่อมใสโสมนัส ได้ถวายอาสนะ
ทอง.
และได้บูชาด้วยของหอม และดอกไม้เป็นอันมาก ด้วย
คิดว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงนำสุขในปรโลกมาให้ ชนเป็น
อันมากทำการบูชาในพระองค์แล้ว ย่อมดับ (เย็น).
เรามีจิตเลื่อมใส มีใจโสมนัส ไหว้โพธิพฤกษ์อันอุดมแล้ว
มิได้เข้าถึงทุคติเลย ตลอดแสนกัป.
ในกัปที่ ๑,๕๐๐ แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๘ ครั้ง
พระเจ้าจักรพรรดิราชเหล่านั้น ทรงพระนามเหมือนกันว่า
สิลุจจยะ.
คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ
อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระสีหาสนทายกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบสีหาสนทายกเถราปทาน
ว่าด้วยผลแห่งการบูชาของหอมและถวายอาสนะทอง
[๑๗๗] เมื่อพระโลกนาถผู้เป็นนายก
นิพพานไปแล้ว เรามีจิตเลื่อมใสโสมนัส ได้ถวายอาสนะ
ทอง.
และได้บูชาด้วยของหอม และดอกไม้เป็นอันมาก ด้วย
คิดว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงนำสุขในปรโลกมาให้ ชนเป็น
อันมากทำการบูชาในพระองค์แล้ว ย่อมดับ (เย็น).
เรามีจิตเลื่อมใส มีใจโสมนัส ไหว้โพธิพฤกษ์อันอุดมแล้ว
มิได้เข้าถึงทุคติเลย ตลอดแสนกัป.
ในกัปที่ ๑,๕๐๐ แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๘ ครั้ง
พระเจ้าจักรพรรดิราชเหล่านั้น ทรงพระนามเหมือนกันว่า
สิลุจจยะ.
คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ
อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า
เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระสีหาสนทายกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบสีหาสนทายกเถราปทาน
๗๑/๑๗๗/๕๗๔
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น