วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 04, 2564

Ton

 
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อโยนิ ความว่า โดยไม่แยบคาย คือ
ไม่ใช่โดยอุบาย. บทว่า สุทธึ ได้แก่ สังสารสุทธิ คือการแล่นออกไปจากภพ.
บทว่า อเนฺวสํ ความว่า เมื่อเสาะหาอยู่ คือแสวงหาอยู่. บทว่า อคฺคึ
ปริจรึ วเน ความว่า ข้าพเจ้าสร้างเรือนไฟแล้วสรรเสริญการบูชาไปพลาง
บำเรอพระอัคนิเทพไปพลาง คือบูชาตามวิธีที่กล่าวไว้แล้วในคัมภีร์พระเวท
ณ สถานที่ ๆ อยู่ในป่าคือโรงบูชาไฟ โดยอธิบายว่า นี้เป็นทางแห่งความ
บริสุทธิ์.
ข้อว่า สุทฺธิมคฺคํ อชานนฺโต อกาสึ อมรํ ตปํ (ข้าพเจ้าเมื่อ
ไม่รู้จักทางแห่งความบริสุทธิ์ ได้บำเพ็ญอมรตบะ) ความว่า ข้าพเจ้าเมื่อไม่
รู้จักทางแห่งความบริสุทธิ์คือพระนิพพาน จึงได้บำเพ็ญคือได้ประพฤติ ได้แก่
ได้ปฏิบัติอัตตกิลมถานุโยค มีการทรมานตนด้วยตบะ ๕ อย่างเป็นต้นอาทิผิด เหมือน
การบูชาไฟ ด้วยเข้าใจว่าเป็นทางแห่งความบริสุทธิ์.
พระเถระครั้นแสดงความไม่มีแห่งความบริสุทธิ์ในภายนอกแล้ว บัดนี้
เมื่อจะแสดงว่า ก็ความบริสุทธิ์ ข้าพเจ้าบรรลุได้ในศาสนานี้เท่านั้น เพราะ
ความบริสุทธิ์ คนไม่ขยันแล้วจะบรรลุไม่ได้ ด้วยการบูชาไฟเป็นต้น ตามวิธี
ที่กล่าวไว้แล้วในคัมภีร์พระเวท เหมือนไปสู่อาศรมจากอาศรม จึงได้กล่าว
คาถาที่ ๒ ไว้ว่า
ความสุขนั้น ข้าพเจ้าได้มาโดยง่ายดาย ท่านจง
ดูความที่พระธรรมเป็นธรรมที่ดีเถิด วิชชา ๓ ข้าพเจ้า
ได้บรรลุแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าปฏิบัติ
แล้ว.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ตํ เป็นต้น ความว่า ข้าพเจ้าตามแสวงหา
อยู่ซึ่งความบริสุทธิ์ เพื่อประโยชน์แก่พระนิพพานใด เมื่อไปสู่ทางแห่งพระ-
 
๕๑/๓๐๗/๒๓๓

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก