วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 25, 2564

Kradang

 
กรรมที่บัณฑิตเกลียด อันบุคคลทำแล้ว ชื่อว่า กุกตะ ความเป็น
แห่งกุกตะนั้น ชื่อว่า กุกกุจจะ กุกกุจจะนั้นมีความเดือดร้อนใจในภายหลัง
เป็นลักษณะ (ปจฺฉานุตาปนลกฺขณํ) มีความเศร้าโศกเนือง ๆ ถึงบาปที่
ทำแล้ว และบุญที่ยังไม่ได้กระทำเป็นกิจ (กตากตานุโสจนรสํ) มีความ
วิปฏิสาร คือความเดือดร้อนเป็นปัจจุปัฏฐาน (วิปฺปฏิสารปจฺจุปฏฺฐานํ)
มีการทำบาปแล้วและมิได้ทำบุญไว้เป็นปทัฏฐาน (กตากตปทฏฺฐานํ) พึงเห็น
เหมือนอย่างความเป็นทาส ฉะนั้น.
นี้เป็นความต่างกันในอุทเทสวารก่อน. ในนิทเทสวาร พึงทราบความ
ไม่ชอบใจในเวทนานิทเทส ด้วยสามารถเป็นธรรมปฏิปักษ์ต่อความชอบใจ.
พึงทราบวินิจฉัยในโทสนิทเทสต่อไป
สภาวะที่ชื่อว่า โทสะ เพราะอรรถว่า ย่อมคิดประทุษร้าย. อาการ
ที่คิดประทุษร้ายชื่อว่า ทุสสนา (กิริยาที่ประทุษร้าย). ภาวะแห่งความ
ประทุษร้าย ชื่อว่า ทุสสิตัตตะ (ความคิดประทุษร้าย).
ความคิดเบียดเบียน ชื่อว่า พยาปัตติ (การคิดปองร้าย) ด้วยอรรถว่า
การละความเป็นปกติ. อาการแห่งการปองร้าย ชื่อว่า พยาปัชชนา (กิริยา
ที่ปองร้าย) ที่ชื่อว่า วิโรธ (ความโกรธ) เพราะอรรถว่า มุ่งร้าย. ที่ชื่อว่า
ปฏิวิโรธ (ความแค้น) เพราะอรรถว่า พิโรธเนือง ๆ. อีกอย่างหนึ่ง คำ
ทั้งสองนี้ ตรัสไว้ด้วยอำนาจแห่งอาการที่โกรธและอาการที่แค้น.
บุคคลมีจิตกระด้างอาทิผิด ดุร้าย เรียกว่า จัณฑิกะ ภาวะแห่งจัณฑิกะนั้น
เรียกว่า จัณฑิกกะ (ความดุร้าย). ถ้อยคำอันคนดุร้ายนี้ยกขึ้นพูดอย่างดี
มิได้มี คำพูดของคนเช่นนี้เป็นคำพูดชั่ว คือ ไม่บริบูรณ์เลย เพราะฉะนั้น
 
๗๖/๓๓๗/๔๒

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก