วันศุกร์, ตุลาคม 11, 2567

Ru Sueng

 
ญาณเป็นอย่างหนึ่ง สัพพัญญุตญาณก็เป็นอย่างหนึ่ง. ก็ทศพลญาณย่อมรู้ซึ่ง
กิจ (หน้าที่) ของตน ๆ เท่านั้น ส่วนสัพพัญญุตญาณ ย่อมรู้แม้ซึ่งกิจอัน
ทศพลญาณรู้แล้วนั้น และย่อมรู้ซึ่งกิจแม้อันเหลือจากทศพลญาณรู้แล้วนั้น
ด้วย.
จริงอยู่ ในบรรดาทศพลญาณเหล่านั้น ญาณที่หนึ่งย่อมรู้อาทิผิด อาณัติกะซึ่งธรรม
อันเป็นเหตุและมิใช่เหตุเท่านั้น.
ญาณที่ ๒ ย่อมรู้ซึ่งความแตกต่างกันแห่งธรรมและวิบาก
เท่านั้น.
ญาณที่ ๓ ย่อมรู้การกำหนดความเป็นไปแห่งธรรมเท่านั้น.
ญาณที่ ๔ ย่อมรู้เหตุแห่งความเป็นต่าง ๆ กันแห่งธาตุเท่านั้น.
ญาณที่ ๕ ย่อมรู้ซึ่งอัธยาศัยและความน้อมไปแห่งจิตเท่านั้น.
ญาณที่ ๖ ย่อมรู่ซึ่งความที่อินทรีย์ทั้งหลายเป็นธรรมแก่กล้า
และอ่อนเท่านั้น.
ญาณที่ ๗ ย่อมรู้ซึ่งความที่แห่งสัตว์ทั้งหลายมีความเศร้า
หมองเป็นต้น ด้วยฌานเป็นต้นเท่านั้น.
ญาณที่ ๘ ย่อมรู้ซึ่งความสืบต่อแห่งขันธ์อันเคยอาศัยมาแล้ว
ในกาลก่อนเท่านั้น.
ญาณที่ ๙ ย่อมรู้ซึ่งจุติและปฏิสนธิของสัตว์ทั้งหลายเท่านั้น.
ญาณที่ ๑๐ ย่อมรู้ซึ่งการกำหนดสัจจะเท่านั้น
ส่วนสัพพัญญุตญาณ ย่อมรู้ทั่วซึ่งธรรมอันทศพลญาณเหล่า
นั้นพึงรู้ด้วย ซึ่งธรรมอันยิ่งกว่าทศพลญาณนั้นด้วย. ก็แต่ว่า
สัพพัญญุตญาณนั้น ย่อมไม่ทำกิจทั้งปวงของทศพลญาณเหล่านั้นได้
 
๗๘/๘๔๘/๗๕๒

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก