ทวยเทพชั้นดาวดึงส์ พร้อมกับพระ-
อินทร์อาทิผิด อาณัติกะ ถวายนมัสการพระตถาคตและความ
ที่พระธรรมเป็นธรรมดีเห็นเหตุนี้แล้ว
ย่อมบันเทิง ดังนี้.
[๑๙๘] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สนังกุมารพรหมได้กล่าวเนื้อความนี้
เสียงของสนังกุมารพรหมผู้กล่าวเนื้อความนี้ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ คือ
แจ่มใส ๑ ชัดเจน ๑ นุ่มนวล ๑ น่าฟัง ๑ กลมกล่อม ๑ ไม่พร่า ๑ ลึก ๑ มี
กังวาน ๑. ก็สนังกุมารพรหม ย่อมยังบริษัทเท่าใดให้ทราบเนื้อความด้วยเสียง
ของตน กระแสเสียงก็ไม่แพร่ไปในภายนอกบริษัทเท่านั้น. เสียงของผู้ใด
ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการอย่างนี้ ผู้นั้นท่านเรียกว่า มีเสียงเพียงดังเสียง
พรหม. ครั้งนั้นแล สนังกุมารพรหม นิรมิตอัตภาพ ๓๓ อัตภาพ นั่งอยู่บน
บัลลังก์ของเทวดาชั้นดาวดึงส์ทุก ๆ บัลลังก์แล้ว เรียกเทวดาชั้นดาวดึงส์มา
กล่าวว่า เทวดาชั้นดาวดึงส์ จะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ก็พระผู้มีพระภาค
พระองค์นี้ ทรงปฏิบัติเพื่อเกื้อกูลแก่ชนมาก เพื่อสุขแก่ชนมาก เพื่ออนุเคราะห์
โลก เพื่อประโยชน์เพื่อเกื้อกูล เพื่อสุข แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายเพียงไร.
ชนเหล่าใดถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง ถึงพระสงฆ์เป็น
ที่พึ่ง กระทำบริบูรณ์ในศีลทั้งหลาย ชนเหล่านั้นเบื้องหน้าแต่ตายเพราะกาย
แตก บางพวกเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตดี บางพวก
เข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาชั้นนิมมานรดี บางพวกเข้าถึงความเป็นสหาย
ของเทวดาชั้นดุสิต บางพวกเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาชั้นยามา บางพวก
เข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาชั้นดาวดึงส์ บางพวกเข้าถึงความเป็นสหายของ
เทวดาชั้นจาตุมมหาราช พวกที่ยังกายที่เลวกว่าเขาทั้งหมดให้บริบูรณ์ ย่อมไป
เพิ่มจำนวนหมู่เทพคนธรรพ์ ดังนี้.
ที่พระธรรมเป็นธรรมดีเห็นเหตุนี้แล้ว
ย่อมบันเทิง ดังนี้.
[๑๙๘] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สนังกุมารพรหมได้กล่าวเนื้อความนี้
เสียงของสนังกุมารพรหมผู้กล่าวเนื้อความนี้ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ คือ
แจ่มใส ๑ ชัดเจน ๑ นุ่มนวล ๑ น่าฟัง ๑ กลมกล่อม ๑ ไม่พร่า ๑ ลึก ๑ มี
กังวาน ๑. ก็สนังกุมารพรหม ย่อมยังบริษัทเท่าใดให้ทราบเนื้อความด้วยเสียง
ของตน กระแสเสียงก็ไม่แพร่ไปในภายนอกบริษัทเท่านั้น. เสียงของผู้ใด
ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการอย่างนี้ ผู้นั้นท่านเรียกว่า มีเสียงเพียงดังเสียง
พรหม. ครั้งนั้นแล สนังกุมารพรหม นิรมิตอัตภาพ ๓๓ อัตภาพ นั่งอยู่บน
บัลลังก์ของเทวดาชั้นดาวดึงส์ทุก ๆ บัลลังก์แล้ว เรียกเทวดาชั้นดาวดึงส์มา
กล่าวว่า เทวดาชั้นดาวดึงส์ จะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ก็พระผู้มีพระภาค
พระองค์นี้ ทรงปฏิบัติเพื่อเกื้อกูลแก่ชนมาก เพื่อสุขแก่ชนมาก เพื่ออนุเคราะห์
โลก เพื่อประโยชน์เพื่อเกื้อกูล เพื่อสุข แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายเพียงไร.
ชนเหล่าใดถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง ถึงพระสงฆ์เป็น
ที่พึ่ง กระทำบริบูรณ์ในศีลทั้งหลาย ชนเหล่านั้นเบื้องหน้าแต่ตายเพราะกาย
แตก บางพวกเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตดี บางพวก
เข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาชั้นนิมมานรดี บางพวกเข้าถึงความเป็นสหาย
ของเทวดาชั้นดุสิต บางพวกเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาชั้นยามา บางพวก
เข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาชั้นดาวดึงส์ บางพวกเข้าถึงความเป็นสหายของ
เทวดาชั้นจาตุมมหาราช พวกที่ยังกายที่เลวกว่าเขาทั้งหมดให้บริบูรณ์ ย่อมไป
เพิ่มจำนวนหมู่เทพคนธรรพ์ ดังนี้.
๑๓/๑๙๘/๕๓๙
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น