วันอาทิตย์, กันยายน 01, 2567

Damri

 
อรรถว่าเป็นที่รวม ชื่อว่าเวทนา เพราะอรรถว่าเป็นที่ประชุม ชื่อว่า
สมาธิ เพราะอรรถว่าเป็นประธาน ชื่อว่าสติ เพราะอรรถว่าเป็นใหญ่
ชื่อว่าปัญญา เพราะอรรถว่ายิ่งกว่าธรรมนั้นๆ ชื่อว่าวิมุตติ เพราะอรรถ
ว่าเป็นแก่นสาร ชื่อว่านิพพานอันหยั่งลงในอมตะ เพราะอรรถว่า
เป็นแก่นสาร ชื่อว่านิพพานอันหยั่งลงในอมตะ เพราะอรรถว่า
เป็นที่สุด ธรรมเหล่านี้ เข้ามาประชุมกันในขณะนั้น พระโยคาวจร
ออกจากสมาบัติแล้ว ย่อมพิจารณาเห็นธรรมเหล่านี้เข้ามาประชุมกัน
ในขณะนั้น.
[ ๑๕๗] ในขณะแห่งโสดาปัตติผล ญาณชื่อว่าสัมมาทิฏฐิ
เพราะอรรถว่าเห็น ชื่อว่าสัมมาสังกัปปะ เพราะอรรถว่าดำริอาทิผิด สระออก ฯล ฯ
ชื่อว่าอนุปปาทญาณ คือญาณในความไม่เกิดขึ้น เพราะอรรถว่าระงับ
ชื่อว่าฉันทะ เพราะอรรถว่าเป็นมูล ชื่อว่ามนสิการ เพราะอรรถว่า
เป็นสมุฏฐาน . . . ชื่อว่าวิมุตติ เพราะอรรถว่าเป็นแก่นสาร ชื่อว่านิพ-
พานอันหยั่งลงในอมตะ เพราะอรรถว่าเป็นที่สุด ธรรมเหล่านี้เข้ามา
ประชุมกันในขณะนั้น พระโยคาวจรออกจากสมาบัติแล้ว ย่อมพิจารณา
เห็นว่า ธรรมเหล่านี้เข้ามาประชุมกันในขณะนั้น.
[๑๕๘] ในขณะแห่งสกทาคามิมรรค ฯลฯ ในขณะแห่ง
สกทาคามิผล ฯลฯ ในขณะแห่งอนาคามิมรรค ฯลฯ ในขณะแห่ง
อนาคามิผล ฯลฯ ในขณะแห่งอรหัตมรรค ญาณชื่อว่าสัมมาทิฏฐิ
 
๖๘/๑๕๗/๗๗๕

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก