ทางฝ่ายมารดาของเด็กเหล่านั้น คิดว่าบัดนี้เราได้รางวัลแล้ว จึงไปยังเมือง
กราบทูลแด่พระราชา พระราชาทรงดำริว่า เราจักทูลเชิญเสด็จพระราช-
บิดามา จึงเสด็จไป ณ ที่นั้น พร้อมกับเสนา ๔ เหล่า ถวายบังคมพระ
ราชบิดา แล้วทูลขอว่า ขอพระองค์จงทรงรับราชสมบัติเถิด พระเจ้าข้า.
พระเจ้ากรุงพาราณสีตรัสว่า อย่าเลยพ่อเอ๋ย เราจะไม่ไป ณ ที่นั้น เธอ
จงถากถางต้นไม้นี้ออก แล้วสร้างเมืองให้แก่เรา ณ ที่นี้นี่แหละ. พระ
ราชาทรงกระทำตามรับสั่งแล้ว ตั้งชื่อให้ ๒ ชื่อ คือ ชื่อว่า โกลนคร
เพราะเหตุที่ถากถางต้นกระเบาออกแล้วสร้างเมืองนั้นขึ้น ๑ ชื่อว่า
พยัคฆบถ เพราะสร้างขึ้นที่ทางเดินของเสือโคร่ง ๑ เสร็จแล้วถวายบังคม
พระราชบิดา ได้เสด็จกลับพระนคร.
ต่อมาพระราชมารดาได้ตรัสกะกุมารผู้เจริญวัยแล้วว่า นี่แน่ะลูก ๆ
ทั้งหลาย ศากยะผู้อยู่ในกรุงกบิลพัสดุ์ผู้เป็นพระเจ้าลุงของพวกท่านมีอยู่
ก็พวกธิดาของพระเจ้าลุงของพวกท่าน มีการจับผมเห็นปานฉะนี้ มีการ
จับผ้าเห็นปานฉะนี้ แน่ะลูกทั้งหลาย เมื่อใดพวกเขามาท่าอาบน้ำ เมื่อ
นั้นท่านจงไปจับธิดาผู้ที่ตนชอบไว้. พวกเขาก็พากันไปในที่นั้น เมื่อพระ
ราชธิดาพากันมาอาบน้ำ กำลังผึ่งศีรษะให้แห้งอยู่ จึงจับราชธิดาผู้ที่ตน
ปรารถนาประกาศชื่อให้ทราบแล้วมา. พระเจ้าศากยะทั้งหลายทรงสดับ
แล้ว ตรัสว่า แน่ะพนาย ช่างเขาเถิด พวกญาติ ๆ ของเราเอง แล้วก็
ทรงเฉยเสีย. นี้เป็นเรื่องเกิดขึ้นของศากยวงศ์และโกลิยอาทิผิด สระ วงศ์ . เมื่อศากยวงศ์
และโกลิยอาทิผิด สระ วงศ์ เหล่านั้น ทำการอาวาหมงคลและวิวาหมงคลซึ่งกันและกัน
วงศ์สกุลสืบต่อกันมาไม่ขาดสายเลยตราบเท่าอาทิผิด อักขระ ถึงพุทธกาล. ในเรื่องนั้น
พระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อทรงแสดงศากยวงศ์ จึงตรัสพระดำรัสว่า ศากยะ
กราบทูลแด่พระราชา พระราชาทรงดำริว่า เราจักทูลเชิญเสด็จพระราช-
บิดามา จึงเสด็จไป ณ ที่นั้น พร้อมกับเสนา ๔ เหล่า ถวายบังคมพระ
ราชบิดา แล้วทูลขอว่า ขอพระองค์จงทรงรับราชสมบัติเถิด พระเจ้าข้า.
พระเจ้ากรุงพาราณสีตรัสว่า อย่าเลยพ่อเอ๋ย เราจะไม่ไป ณ ที่นั้น เธอ
จงถากถางต้นไม้นี้ออก แล้วสร้างเมืองให้แก่เรา ณ ที่นี้นี่แหละ. พระ
ราชาทรงกระทำตามรับสั่งแล้ว ตั้งชื่อให้ ๒ ชื่อ คือ ชื่อว่า โกลนคร
เพราะเหตุที่ถากถางต้นกระเบาออกแล้วสร้างเมืองนั้นขึ้น ๑ ชื่อว่า
พยัคฆบถ เพราะสร้างขึ้นที่ทางเดินของเสือโคร่ง ๑ เสร็จแล้วถวายบังคม
พระราชบิดา ได้เสด็จกลับพระนคร.
ต่อมาพระราชมารดาได้ตรัสกะกุมารผู้เจริญวัยแล้วว่า นี่แน่ะลูก ๆ
ทั้งหลาย ศากยะผู้อยู่ในกรุงกบิลพัสดุ์ผู้เป็นพระเจ้าลุงของพวกท่านมีอยู่
ก็พวกธิดาของพระเจ้าลุงของพวกท่าน มีการจับผมเห็นปานฉะนี้ มีการ
จับผ้าเห็นปานฉะนี้ แน่ะลูกทั้งหลาย เมื่อใดพวกเขามาท่าอาบน้ำ เมื่อ
นั้นท่านจงไปจับธิดาผู้ที่ตนชอบไว้. พวกเขาก็พากันไปในที่นั้น เมื่อพระ
ราชธิดาพากันมาอาบน้ำ กำลังผึ่งศีรษะให้แห้งอยู่ จึงจับราชธิดาผู้ที่ตน
ปรารถนาประกาศชื่อให้ทราบแล้วมา. พระเจ้าศากยะทั้งหลายทรงสดับ
แล้ว ตรัสว่า แน่ะพนาย ช่างเขาเถิด พวกญาติ ๆ ของเราเอง แล้วก็
ทรงเฉยเสีย. นี้เป็นเรื่องเกิดขึ้นของศากยวงศ์และ
และ
วงศ์สกุลสืบต่อกันมาไม่ขาดสายเลย
พระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อทรงแสดงศากยวงศ์ จึงตรัสพระดำรัสว่า ศากยะ
๑๑/๑๗๗/๕๖๑
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น