วันเสาร์, กุมภาพันธ์ 22, 2568

Olan

 
อันทักษิณานี้แล มหาบพิตรถวายแล้ว เข้าไปตั้ง
ไว้ดีแล้วในพระสงฆ์ ย่อมสำเร็จผลโดยฐานะ เพื่อ
ประโยชน์เกื้อกูลแต่เปรตตลอดกาลนาน ดังนี้.
เพราะเหตุที่ญาติธรรม อันพระราชาผู้ทรงถวายทักษิณานี้ ทรงแสดง
แล้วด้วยทรงทำกิจที่หมู่ญาติควรทำแก่หมู่ญาติ ทรงทำให้ปรากฏแก่ชนเป็นอัน
มากหรือทรงยกเป็นตัวอย่างว่า ญาติธรรมแม้ท่านทั้งหลายก็พึงบำเพ็ญด้วยการ
ทำกิจที่หมู่ญาติพึงทำอย่างนั้นเหมือนกัน ไม่พึงทำตัวให้เดือดร้อนด้วยการร้องไห้
เป็นต้น ซึ่งไร้ประโยชน์ การบูชาหมู่เปรตอันพระราชาผู้ทรงยังหมู่เปรตเหล่านั้น
ให้ประสพทิพยสมบัติทรงทำแล้วอย่างโอฬาร และกำลังของภิกษุทั้งหลาย
อันพระราชาผู้ทรงอังคาสเลี้ยงดูภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขให้อิ่มหนำ
สำราญ ด้วยข้าวน้ำเป็นต้น ชื่อว่าทรงเพิ่มให้แล้ว และบุญมิใช่น้อย อันพระ
ราชาทรงยังจาคเจตนา มีคุณคือความอนุเคราะห์เป็นต้นเป็นบริวารให้เกิดก็
ทรงประสพแล้ว ฉะนั้น เมื่อทรงยังพระราชาให้ทรงร่าเริงด้วยคุณตามเป็นจริง
เหล่านั้นอีก จึงทรงจบเทศนาด้วยพระคาถานี้ว่า
ญาติธรรมนี้นั้น เป็นอันทรงแสดงแล้ว ๑ การ
บูชาเปตชน ก็ทรงทำอย่างโอฬารอาทิผิด กำลังของภิกษุ
ทั้งหลาย ก็ทรงเพิ่มให้แล้ว บุญมิใช่น้อย พระองค์
ทรงขวนขวายแล้ว ๑.
อีกนัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงชี้แจงพระราชาด้วยธรรมีกถา
ด้วยบทคาถานี้ว่า โส ญาติธมฺโม จ อยํ นิทสฺสิโต. ความจริง การ
แสดงญาติธรรมนี่เอง เป็นการชี้บ่อย ๆ ในข้อนี้. ทรงชักชวนด้วยบทคาถานี้ว่า
 
๓๙/๘/๓๐๐

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก