วันอาทิตย์, กรกฎาคม 21, 2567

Thommanat

 
อภิชฌาและโทมนัสอาทิผิด อักขระในโลกเสียได้ พิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ มีความเพียร
มีสติ มีสัมปชัญญะ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้.
[๓] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว นายเปสสหัตถาโรหบุตร
ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า น่าอัศจรรย์ พระพุทธเจ้าข้า ไม่เคยมี พระ
พุทธเจ้าข้า สติปัฏฐาน ๔ นี้ พระองค์ทรงบัญญัติไว้ดีแล้ว เพื่อความบริสุทธิ์
ของสัตว์ทั้งหลายเพื่อก้าวล่วงความโศกและความร่ำไร เพื่อความดับแห่งทุกข์
และโทมนัส เพื่อบรรลุญายธรรม เพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน ที่จริง แม้
พวกข้าพระพุทธเจ้าเป็นคฤหัสถ์นุ่งผ้าขาว ก็ยังมีจิตตั้งมั่นดีแล้วใน
สติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้อยู่ตามกาลที่สมควร ขอประทานพระวโรกาส พวก
ข้าพระพุทธเจ้าพิจารณาเห็นกายอาทิผิด อักขระในกายอยู่ มีความเพียร มีสติ มีสัมปชัญญะ
กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้ พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่ มี
ความเพียร มีสติ มีสัมปชัญญะ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้
พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีความเพียร มีสติ มีสัมปชัญญะ กำจัดอภิชฌาและ
โทมนัสในโลกเสียได้ พิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ มีความเพียร มีสติ มีสัม-
ปชัญญะ กำจัดอภิชฌา และโทมนัสในโลกเสียได้ น่าอัศจรรย์ พระพุทธเจ้าข้า
ไม่เคยมี พระพุทธเจ้าข้า เพียงเท่านี้ พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคเจ้าชื่อว่า
ย่อมทรงทราบประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ของสัตว์ทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์รกชัฏ
เป็นไปอย่างนี้ ในเมื่อมนุษย์เดนกาก เป็นไปอยู่อย่างนี้ ในเมื่อมนุษย์โอ้อวด
เป็นไปอยู่อย่างนี้ ก็สิ่งที่รกชัฏคือมนุษย์ สิ่งที่ตื้นคือสัตว์ พระพุทธเจ้าข้า
ด้วยว่าข้าพระพุทธเจ้าสามารถจะให้ช้างที่พอฝึกแล้วแล่นไปได้ ช้างนั้น
จักทำนครจัมปา ให้เป็นที่ไปมาโดยระหว่าง ๆ จักทำความโอ้อวด ความโกง
 
๒๐/๓/๓

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก