อุปสัมบันได้ยินถ้อยคำของอนุปสัมบันแล้ว เก็บเอาคำส่อเสียดไปบอก
แก่อนุปสัมบัน ต้องอาบัติทุกกฏ.
อนาปัตติวารอาทิผิด สระ
[๒๘๓] ภิกษุไม่ต้องการจะให้เขาชอบ ๑ ภิกษุไม่ประสงค์จะให้เขา
แตกกัน ๑ ภิกษุวิกลจริต ๑ ภิกษุอาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
มุสาวาทวรรค สิกขาบทที่ ๓ จบ
มุสาวาทวรรค เปสุญญาวาทสิกขาบทที่ ๓
พึงทราบวินิจฉัยในสิกขาบทที่ ๓ ดังต่อไปนี้:-
[แก้อรรถปฐมบัญญัติเรื่องภิกษุฉัพพัคคีย์]
บทว่า ภณฺฑนชาตานํ ได้แก่ ผู้เกิดบาดหมางกันแล้ว. ส่วนเบื้องต้น
แห่งความทะเลาะกัน ชื่อว่า ภัณฑนะ (ความบาดหมาง). คือ การปรึกษา
กันในฝักฝ่ายของตน อาทิว่า เมื่อเขากล่าวคำอย่างนี้ว่า กรรมอย่างนี้ อัน
คนนี้และคนนี้กระทำแล้ว พวกเราจักกล่าวอย่างนี้ (ชื่อว่า ภัณฑนะ ความ
บาดหมาง). การล่วงละเมิดทางกายและวาจา ให้ถึงอาบัติ ชื่อว่า กลหะ
(การทะเลาะ). การกล่าวขัดแยงกัน ชื่อว่า วิวาทะ. พวกภิกษุผู้ถึงความวิวาท
กันนั้น ชื่อว่า วิวาทาปันนะ.
บทว่า เปสุญฺญํ ได้แก่ ซึ่งวาจาส่อเสียด. มีคำอธิบายว่า ซึ่งวาจา
ทำให้สูญเสียความเป็นที่รักกัน.
แก่อนุปสัมบัน ต้องอาบัติทุกกฏ.
[๒๘๓] ภิกษุไม่ต้องการจะให้เขาชอบ ๑ ภิกษุไม่ประสงค์จะให้เขา
แตกกัน ๑ ภิกษุวิกลจริต ๑ ภิกษุอาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล.
มุสาวาทวรรค สิกขาบทที่ ๓ จบ
มุสาวาทวรรค เปสุญญาวาทสิกขาบทที่ ๓
พึงทราบวินิจฉัยในสิกขาบทที่ ๓ ดังต่อไปนี้:-
[แก้อรรถปฐมบัญญัติเรื่องภิกษุฉัพพัคคีย์]
บทว่า ภณฺฑนชาตานํ ได้แก่ ผู้เกิดบาดหมางกันแล้ว. ส่วนเบื้องต้น
แห่งความทะเลาะกัน ชื่อว่า ภัณฑนะ (ความบาดหมาง). คือ การปรึกษา
กันในฝักฝ่ายของตน อาทิว่า เมื่อเขากล่าวคำอย่างนี้ว่า กรรมอย่างนี้ อัน
คนนี้และคนนี้กระทำแล้ว พวกเราจักกล่าวอย่างนี้ (ชื่อว่า ภัณฑนะ ความ
บาดหมาง). การล่วงละเมิดทางกายและวาจา ให้ถึงอาบัติ ชื่อว่า กลหะ
(การทะเลาะ). การกล่าวขัดแยงกัน ชื่อว่า วิวาทะ. พวกภิกษุผู้ถึงความวิวาท
กันนั้น ชื่อว่า วิวาทาปันนะ.
บทว่า เปสุญฺญํ ได้แก่ ซึ่งวาจาส่อเสียด. มีคำอธิบายว่า ซึ่งวาจา
ทำให้สูญเสียความเป็นที่รักกัน.
๔/๒๘๓/๑๕๓
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น