ด้วยอำนาจอุปนิสสยปัจจัย ในมโนทวาร แก่กามาวจรเวทนาซึ่งเป็นไปด้วย
อำนาจตทารัมมณะในมโนทวารนั้น ฉะนี้แล.
นิเทศเวทนาเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย จบ
ว่าด้วยนิเทศตัณหา (บาลีข้อ ๒๖๓)
พึงทราบวินิจฉัยนิเทศตัณหาเกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย ต่อไป
ตัณหาอาทิผิด อักขระ ๖ อย่าง พระองค์ทรงแสดง
ไว้ในนิเทศนี้ โดยความต่างแห่งรูปตัณหา
เป็นต้น ในตัณหา ๖ เหล่านั้น แต่ละตัณหา
ตรัสไว้ ๓ อย่าง โดยอาการที่เป็นไป.
ก็ในนิเทศตัณหาเกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัยนี้ มีอธิบายว่า ตัณหา ๖
อย่างเหล่านั้นพระองค์ทรงแสดงแล้ว คือ ประกาศแล้ว ตรัสแล้ว ด้วยอำนาจแห่ง
ชื่อโดยอารมณ์ว่า รูปตัณหา สัททตัณหา คันธตัณหา รสตัณหา โผฏฐัพพ-
ตัณหา ธรรมตัณหา ดังนี้ เหมือนบุตรที่เขาประกาศชื่อตามบิดาว่า เสฏฺฐิ-
ปุตฺโต ( บุตรเศรษฐี) พฺราหฺมณปุตฺโต (บุตรพราหมณ์) ฉะนั้น. บรรดา
ตัณหา ๖ เหล่านั้น พึงทราบอรรถแห่งคำโดยนัยนี้ว่า รูเป ตณฺหา รูปต-
ณฺหา ตัณหาในรูป ชื่อว่า รูปตัณหา ดังนี้.
ว่าด้วยตัณหา ๑๘ อย่าง
ก็แล บรรดาตัณหาเหล่านั้น ตัณหาแต่ละอย่าง ตรัสไว้ ๓ อย่างนี้
คือ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ตามอาการที่เป็นไป จริงอยู่
อำนาจตทารัมมณะในมโนทวารนั้น ฉะนี้แล.
นิเทศเวทนาเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย จบ
ว่าด้วยนิเทศตัณหา (บาลีข้อ ๒๖๓)
พึงทราบวินิจฉัยนิเทศตัณหาเกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย ต่อไป
ไว้ในนิเทศนี้ โดยความต่างแห่งรูปตัณหา
เป็นต้น ในตัณหา ๖ เหล่านั้น แต่ละตัณหา
ตรัสไว้ ๓ อย่าง โดยอาการที่เป็นไป.
ก็ในนิเทศตัณหาเกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัยนี้ มีอธิบายว่า ตัณหา ๖
อย่างเหล่านั้นพระองค์ทรงแสดงแล้ว คือ ประกาศแล้ว ตรัสแล้ว ด้วยอำนาจแห่ง
ชื่อโดยอารมณ์ว่า รูปตัณหา สัททตัณหา คันธตัณหา รสตัณหา โผฏฐัพพ-
ตัณหา ธรรมตัณหา ดังนี้ เหมือนบุตรที่เขาประกาศชื่อตามบิดาว่า เสฏฺฐิ-
ปุตฺโต ( บุตรเศรษฐี) พฺราหฺมณปุตฺโต (บุตรพราหมณ์) ฉะนั้น. บรรดา
ตัณหา ๖ เหล่านั้น พึงทราบอรรถแห่งคำโดยนัยนี้ว่า รูเป ตณฺหา รูปต-
ณฺหา ตัณหาในรูป ชื่อว่า รูปตัณหา ดังนี้.
ว่าด้วยตัณหา ๑๘ อย่าง
ก็แล บรรดาตัณหาเหล่านั้น ตัณหาแต่ละอย่าง ตรัสไว้ ๓ อย่างนี้
คือ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ตามอาการที่เป็นไป จริงอยู่
๗๗/๒๗๓/๕๓๖
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น