บทว่า ตสฺส ปกฺกมานสฺส โสวณฺณกํสา รติสฺสรา อธิบายว่า
โสวรรณกังสะ คือกระดิ่งทำด้วยทอง ของช้างตัวตามที่กล่าวแล้วนั้น
ซึ่งกำลังเดิน มีเสียงน่ายินดี ส่งเสียงน่าอภิรมย์ มีเสียงกังวานน่าปลื้มใจ
ห้อยย้อยอยู่. จริงอยู่ กระดิ่งใหญ่ ๆ หลายร้อย ทำด้วยทอง ขจิตด้วย
แก้วมณีและมุกดาขนาดอาทิผิด เท่า กระถางใหญ่ สองข้างของช้างตัวนั้น ก็
ห้อยแกว่งไกวไป ณ ที่นั้น ๆ ส่งเสียงน่าจับใจแล่นไปยิ่งกว่าที่นักดนตรี
ผู้ฉลาดจัดประโคมเสียอีก ด้วยเหตุนั้น พระเถระจึงกล่าวว่า เสียงกังวาน
ของกระดิ่งเหล่านั้นได้ยินเหมือนดนตรีเครื่องห้า.
ความของคำนั้น มีดังนี้ว่า เมื่อนักดนตรีผู้ฉลาดบรรเลงดนตรีมี
องค์ ๕ อย่างนี้คือ อาตตะ [โทน ] วิตตะ [ ตะโพน ] อาตตะวิตตะ
[บัณเฑาะว์] ฆนะ [กังสดาล] สุสิระ [ปี่, สังข์] เสียงบรรเลง
คลอเสียงนักร้อง ซึ่งขับแสดงจำแนกเสียงต่ำและสูง ตามฐานที่เกิด
กังวานไพเราะน่ารัก ได้ยินกันฉันใด เสียงกังวานของโสวรรณกังสะ คือ
กระดิ่งทองเหล่านั้น ก็ได้ยินกันฉันนั้น.
บทว่า นาคสฺส ได้แก่ ช้างสำคัญ. บทว่า มหนฺตํ ได้แก่ ชื่อว่า
ใหญ่ เพราะใหญ่โดยสมบัติก็มี เพราะใหญ่โดยนับขนาดก็มี. บทว่า
อจฺฉราสงฺฆํ ได้แก่ หมู่เทพกัญญา. บทว่า วณฺเณน ได้แก่ มีรูป.
บทว่า ทานสฺส ได้แก่ บุญสำเร็จด้วยทาน. บทว่า สีลสฺส
ได้แก่ ศีล คือความสำรวมมีความสำรวมทางกายเป็นต้น. วาศัพท์เป็น
วิกัปปัตถะ กำหนดข้อที่ไม่ได้กล่าวไว้. ท่านสงเคราะห์จารีตศีล ศีลคือ
จารีต [ธรรมเนียม] ที่มิได้กล่าวได้ มีการกราบไหว้เป็นต้น ด้วย
วาศัพท์นั้น.
โสวรรณกังสะ คือกระดิ่งทำด้วยทอง ของช้างตัวตามที่กล่าวแล้วนั้น
ซึ่งกำลังเดิน มีเสียงน่ายินดี ส่งเสียงน่าอภิรมย์ มีเสียงกังวานน่าปลื้มใจ
ห้อยย้อยอยู่. จริงอยู่ กระดิ่งใหญ่ ๆ หลายร้อย ทำด้วยทอง ขจิตด้วย
แก้วมณีและมุกดา
ห้อยแกว่งไกวไป ณ ที่นั้น ๆ ส่งเสียงน่าจับใจแล่นไปยิ่งกว่าที่นักดนตรี
ผู้ฉลาดจัดประโคมเสียอีก ด้วยเหตุนั้น พระเถระจึงกล่าวว่า เสียงกังวาน
ของกระดิ่งเหล่านั้นได้ยินเหมือนดนตรีเครื่องห้า.
ความของคำนั้น มีดังนี้ว่า เมื่อนักดนตรีผู้ฉลาดบรรเลงดนตรีมี
องค์ ๕ อย่างนี้คือ อาตตะ [โทน ] วิตตะ [ ตะโพน ] อาตตะวิตตะ
[บัณเฑาะว์] ฆนะ [กังสดาล] สุสิระ [ปี่, สังข์] เสียงบรรเลง
คลอเสียงนักร้อง ซึ่งขับแสดงจำแนกเสียงต่ำและสูง ตามฐานที่เกิด
กังวานไพเราะน่ารัก ได้ยินกันฉันใด เสียงกังวานของโสวรรณกังสะ คือ
กระดิ่งทองเหล่านั้น ก็ได้ยินกันฉันนั้น.
บทว่า นาคสฺส ได้แก่ ช้างสำคัญ. บทว่า มหนฺตํ ได้แก่ ชื่อว่า
ใหญ่ เพราะใหญ่โดยสมบัติก็มี เพราะใหญ่โดยนับขนาดก็มี. บทว่า
อจฺฉราสงฺฆํ ได้แก่ หมู่เทพกัญญา. บทว่า วณฺเณน ได้แก่ มีรูป.
บทว่า ทานสฺส ได้แก่ บุญสำเร็จด้วยทาน. บทว่า สีลสฺส
ได้แก่ ศีล คือความสำรวมมีความสำรวมทางกายเป็นต้น. วาศัพท์เป็น
วิกัปปัตถะ กำหนดข้อที่ไม่ได้กล่าวไว้. ท่านสงเคราะห์จารีตศีล ศีลคือ
จารีต [ธรรมเนียม] ที่มิได้กล่าวได้ มีการกราบไหว้เป็นต้น ด้วย
วาศัพท์นั้น.
๔๘/๕/๕๙

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น