ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติในนครพาราณสี
พระโพธิสัตว์บังเกิดในกำเนิดนก อันหมู่นกห้อมล้อม อาศัยต้นไม้ให้อัน
สมบูรณ์ด้วยกิ่งและค่าคบอยู่ในราวป่า ครั้นวันหนึ่ง จุรณตกในที่กิ่งทั้งหลายของ
ต้นไม้นั้นเสียดสีกันไปมา ควันเกิดขึ้น พระโพธิสัตว์เห็นดังนั้นจึงคิดว่า กิ่งทั้ง
สองนี้เมื่อเสียดสีกันอยู่อย่างนี้จักเกิดไฟ ไฟนั้นตกลงไปติดใบไม้เก่า ๆ จำเดิม
แต่นั้นไฟจักเผาต้นไม้แม้นี้ พวกเราไม่อาจอยู่ในที่นี้ พวกเราหนีจากที่นี้ไปอยู่
ที่อื่น จึงจะควร พระโพธิสัตว์จึงกล่าวคาถานี้แก่หมู่นกว่า
นกทั้งหลายอาศัยต้นไม้ใด ต้นไม้นั้นย่อมทิ้งไฟ
ลงมา นกทั้งหลายจงพากันหนีไปอยู่เสียที่อื่นเถิด ภัย
เกิดจากที่พึ่งของเราแล้ว.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ชคติรุหํ ความว่า ปฐพีเรียกว่า ชคติ
ต้นไม้เรียกว่า ชคติรุหะ เพราะต้นไม้เกิดที่ปฐพีนั้น. บทว่า วิหงฺคมา ความว่า
อากาศเรียกวิหะ นกทั้งหลายเรียกว่า วิหังคมะ เพราะไปในอากาศนั้น. บทว่า
ทิสา ภชถ ความว่า ท่านทั้งหลายเมื่อจะละต้นไม้นี้หนีไปจากที่นี้ จงไป
ยังทิศทั้ง ๔. พระโพธิสัตว์เรียกนกทั้งหลายว่าวังกังคาอาทิผิด อักขระ เพราะว่า นกเหล่า
นั้นกระทำคอซึ่งไปตรงให้คดในบางครั้ง เพราะฉะนั้นจึง เรียกว่า วังกังคา.
อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่าวังกังคาอาทิผิด อักขระ เพราะวังกะคือปีกทั้งหลายเกิดที่ข้างทั้งสองของนก
เหล่านั้น ดังนี้ก็มี. บทว่า ชาตํ สรณโต ภยํ ความว่า ภัยบังเกิดจาก
ต้นไม้อันเป็นที่พึ่งอาศัยของพวกเรานั่นแล มาเถิดพวกเราพากันไปที่อื่น.
นกทั้งหลายที่เป็นบัณฑิตกระทำตามคำของพระโพธิสัตว์ พากันบินขึ้น
พร้อมกันกับพระโพธิสัตว์นั้นไปอยู่ที่อื่นส่วนนกทั้งหลายที่ไม่เป็นบัณฑิตพากัน
กล่าวอย่างนี้ว่า พระโพธิสัตว์นี้เห็นว่ามีจระเข้ในน้ำเพียงหยดเดียว จึงไม่เชื่อ-
ถือคำของพระโพธิสัตว์นั้น คงอยู่ในที่นั้นนั่นเอง แต่นั้นไม่นานนัก ไฟบังเกิด
พระโพธิสัตว์บังเกิดในกำเนิดนก อันหมู่นกห้อมล้อม อาศัยต้นไม้ให้อัน
สมบูรณ์ด้วยกิ่งและค่าคบอยู่ในราวป่า ครั้นวันหนึ่ง จุรณตกในที่กิ่งทั้งหลายของ
ต้นไม้นั้นเสียดสีกันไปมา ควันเกิดขึ้น พระโพธิสัตว์เห็นดังนั้นจึงคิดว่า กิ่งทั้ง
สองนี้เมื่อเสียดสีกันอยู่อย่างนี้จักเกิดไฟ ไฟนั้นตกลงไปติดใบไม้เก่า ๆ จำเดิม
แต่นั้นไฟจักเผาต้นไม้แม้นี้ พวกเราไม่อาจอยู่ในที่นี้ พวกเราหนีจากที่นี้ไปอยู่
ที่อื่น จึงจะควร พระโพธิสัตว์จึงกล่าวคาถานี้แก่หมู่นกว่า
นกทั้งหลายอาศัยต้นไม้ใด ต้นไม้นั้นย่อมทิ้งไฟ
ลงมา นกทั้งหลายจงพากันหนีไปอยู่เสียที่อื่นเถิด ภัย
เกิดจากที่พึ่งของเราแล้ว.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ชคติรุหํ ความว่า ปฐพีเรียกว่า ชคติ
ต้นไม้เรียกว่า ชคติรุหะ เพราะต้นไม้เกิดที่ปฐพีนั้น. บทว่า วิหงฺคมา ความว่า
อากาศเรียกวิหะ นกทั้งหลายเรียกว่า วิหังคมะ เพราะไปในอากาศนั้น. บทว่า
ทิสา ภชถ ความว่า ท่านทั้งหลายเมื่อจะละต้นไม้นี้หนีไปจากที่นี้ จงไป
ยังทิศทั้ง ๔. พระโพธิสัตว์เรียกนกทั้งหลายว่า
นั้นกระทำคอซึ่งไปตรงให้คดในบางครั้ง เพราะฉะนั้นจึง เรียกว่า วังกังคา.
อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่า
เหล่านั้น ดังนี้ก็มี. บทว่า ชาตํ สรณโต ภยํ ความว่า ภัยบังเกิดจาก
ต้นไม้อันเป็นที่พึ่งอาศัยของพวกเรานั่นแล มาเถิดพวกเราพากันไปที่อื่น.
นกทั้งหลายที่เป็นบัณฑิตกระทำตามคำของพระโพธิสัตว์ พากันบินขึ้น
พร้อมกันกับพระโพธิสัตว์นั้นไปอยู่ที่อื่นส่วนนกทั้งหลายที่ไม่เป็นบัณฑิตพากัน
กล่าวอย่างนี้ว่า พระโพธิสัตว์นี้เห็นว่ามีจระเข้ในน้ำเพียงหยดเดียว จึงไม่เชื่อ-
ถือคำของพระโพธิสัตว์นั้น คงอยู่ในที่นั้นนั่นเอง แต่นั้นไม่นานนัก ไฟบังเกิด
๕๕/๓๖/๓๔๘
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น