วันจันทร์, สิงหาคม 02, 2564

Phiksuni

 
เมื่อเขาถามถึงอย่างนี้แล้ว ภิกษุณีอันเตวาสินีของภิกษุณีสุนทรีนันทา
ตอบกะเขาดังนี้ว่า อาพาธค่ะ ดิฉันจักนำบิณฑบาตไปถวาย.
เขาคิดว่า การที่เราได้ตกแต่งอาหารถวายภิกษุณีสงฆ์ ก็เพราะเหตุแห่ง
แม่เจ้าสุนทรีนันทา จึงสั่งคนให้เลี้ยงดูภิกษุณีสงฆ์แล้วเลี่ยงไปทางสำนักภิกษุณี
สงฆ์.
ก็สมัยนั้น ภิกษุณีสุนทรีนันทายืนคอยมองนายสาฬหะ หลานมิคาร-
มาตาอยู่ข้างนอกซุ้มประตูวัด นางเห็นเขาเดินมาแต่ไกลจึงหลบเข้าสู่สำนักนอน
คลุมศีรษะอยู่บนเตียง.
ครั้นเขาเข้าไปหาแล้ว ได้ถามนางว่า แม่เจ้าไม่สบายหรือขอรับ
ทำไมจึงจำวัดเสียเล่า.
นางตอบว่า นาย การที่สตรีรักใคร่กับคนที่เขาไม่รักตอบ ย่อมเป็น
เช่นนี้แหละค่ะ.
เขากล่าวว่า ทำไมผมจะไม่รักแม่เจ้า ขอรับ แต่ผมหาโอกาสที่จะ
ประทุษร้ายแม่เจ้าไม่ได้ แล้วมีความกำหนัด ได้ถึงความเคล้าคลึงด้วยกายกับ
ภิกษุณีสุนทรีนันทา ผู้มีความกำหนัด.
ก็สมัยนั้นแล ภิกษุณีรูปหนึ่งผู้ชราทุพพลภาพ เท้าเจ็บ นอนอยู่ไม่
ห่างจากภิกษุณีสุนทรีนันทา ได้แลเห็นสาฬหะ หลานมิคารมาตา ถึงความ
เคล้าคลึงด้วยกายกับภิกษุณีสุนทรีนันทาผู้กำหนัด ครั้นแล้วจึงเพ่งโทษ ติเตียน
โพนทะนาว่า ไฉนแม่เจ้าสุนทรีนันทา จึงได้มีความกำหนัด ยินดีการเคล้า-
คลึงด้วยกายของบุรุษบุคคลผู้กำหนัดเล่า แล้วได้แจ้งเรื่องนั้นแก่ภิกษุณีทั้งหลาย
บรรดาภิกษุณีอาทิผิด อักขระผู้มีความมักน้อย สันโดษ มีความละอาย มีความรังเกียจ ผู้ใคร่
ต่อสิกขาต่างก็เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉน แม่เจ้าสุนทรีนันทา จึง
 
๕/๑/๓

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก