บทว่า ปลฺลตฺถิกาย มีความว่า อันภิกษุจะแสดงธรรมแก่ผู้ไม่เจ็บไข้
นั่งรัดเข่าอย่างใดอย่างหนึ่ง จะเป็นเครื่องรัดเข่าคือสายโยกก็ตาม เครื่องรัดเข่า
คือมือก็ตาม เครื่องรัดเข่าคือผ้าก็ตามไม่ควร.
บทว่า เวฏฺิตสีสสฺส มีความว่า แก่ผู้โพกศีรษะด้วยผ้าสำหรับโพก
หรือด้วยพวงดอกไม้เป็นต้น มิดจนริมผมไม่ปรากฏอาทิผิด อักขระ ให้เห็น.
บทว่า โอคุณฺฐิตสีสสฺส คือ ผู้ห่มคลุมทั้งศีรษะ.
สองบทว่า ฉมายํ นิสินฺเนน คือ ผู้นั่งบนพื้นดิน.
สองบทว่า อาสเน นิสินฺนสฺส คือ ชั้นที่สุด ได้แก่ผู้ปูผ้า หรือ
หญ้านั่ง .
บทว่า ฉวกสฺส ได้แก่ คนจัณฑาล.
บทว่า ฉวกา ได้แก่ หญิงจัณฑาล.
บทว่า นิลีโน คือเป็นผู้หลบซ่อนอยู่.
บทว่า ยตฺร หิ นาม คือ โย หิ นาม แปลว่า บุคคลใดเล่า
ข้อว่า สพฺพมิทํ จ ปริคตนฺติ ตตฺเถว ปริปติ มีความว่า คน
จัณฑาลนั้นกล่าวถ้อยคำอย่างนี้ว่า โลกนี้ทั้งหมด ถึงความยุ่งเหยิงไม่มีเขตแดน
แล้วไต่ลงมาจากต้นไม้ ในระหว่างชนทั้ง ๒ นั้น ในที่นั้นนั่นเทียว. ก็แล
ครั้นไต่ลงมาแล้ว ยืนอยู่ข้างหน้าแห่งชนแม้ทั้ง ๒ แล้วกล่าวคาถานี้ว่า อุโภ
อตฺถํ น ชานนฺติ ฯ เป ฯ อสฺมากุมฺภมิวาภิทาอาทิผิด อักขระ ดังนี้.
บรรดาบทเหล่านั้น บาทคาถาว่า อุโภ ยตฺถํ น ชานนฺติ ความว่า
ชนแม้ทั้ง ๒ ย่อมไม่รู้อรรถแห่งบาลี
ข้อว่า ธมฺมํ น ปสฺสเร ความว่า ชนทั้ง ๒ ย่อมไม่เห็นบาลี.
ถามว่า ชนทั้ง ๒ นั้นเหล่าไหน ?.
นั่งรัดเข่าอย่างใดอย่างหนึ่ง จะเป็นเครื่องรัดเข่าคือสายโยกก็ตาม เครื่องรัดเข่า
คือมือก็ตาม เครื่องรัดเข่าคือผ้าก็ตามไม่ควร.
บทว่า เวฏฺิตสีสสฺส มีความว่า แก่ผู้โพกศีรษะด้วยผ้าสำหรับโพก
หรือด้วยพวงดอกไม้เป็นต้น มิดจนริมผมไม่
บทว่า โอคุณฺฐิตสีสสฺส คือ ผู้ห่มคลุมทั้งศีรษะ.
สองบทว่า ฉมายํ นิสินฺเนน คือ ผู้นั่งบนพื้นดิน.
สองบทว่า อาสเน นิสินฺนสฺส คือ ชั้นที่สุด ได้แก่ผู้ปูผ้า หรือ
หญ้านั่ง .
บทว่า ฉวกสฺส ได้แก่ คนจัณฑาล.
บทว่า ฉวกา ได้แก่ หญิงจัณฑาล.
บทว่า นิลีโน คือเป็นผู้หลบซ่อนอยู่.
บทว่า ยตฺร หิ นาม คือ โย หิ นาม แปลว่า บุคคลใดเล่า
ข้อว่า สพฺพมิทํ จ ปริคตนฺติ ตตฺเถว ปริปติ มีความว่า คน
จัณฑาลนั้นกล่าวถ้อยคำอย่างนี้ว่า โลกนี้ทั้งหมด ถึงความยุ่งเหยิงไม่มีเขตแดน
แล้วไต่ลงมาจากต้นไม้ ในระหว่างชนทั้ง ๒ นั้น ในที่นั้นนั่นเทียว. ก็แล
ครั้นไต่ลงมาแล้ว ยืนอยู่ข้างหน้าแห่งชนแม้ทั้ง ๒ แล้วกล่าวคาถานี้ว่า อุโภ
อตฺถํ น ชานนฺติ ฯ เป ฯ อสฺมา
บรรดาบทเหล่านั้น บาทคาถาว่า อุโภ ยตฺถํ น ชานนฺติ ความว่า
ชนแม้ทั้ง ๒ ย่อมไม่รู้อรรถแห่งบาลี
ข้อว่า ธมฺมํ น ปสฺสเร ความว่า ชนทั้ง ๒ ย่อมไม่เห็นบาลี.
ถามว่า ชนทั้ง ๒ นั้นเหล่าไหน ?.
๔/๘๘๑/๙๖๔
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น