วันจันทร์, กันยายน 09, 2567

Purisa

 
อุปหจฺจ ตลํ ความว่า สะเก็ดลูกไฟเหล็กติดไฟโพลงอยู่ ไม่ล่วง
เลยพื้นอากาศ หรือเข้ากระทบพื้นดิน เพียงตกไปที่ดินเท่านั้น
แล้วก็ดับไป.
พระอนาคามีบุคคล ผู้ทำกิเลสทั้งหลายให้สิ้นไป โดยไม่มี
สังขารอื่นกระตุ้นเตือน คือโดยไม่มีความพยายาม แล้วปรินิพพาน
เพราะเหตุนั้น พระอนาคามีนั้น จึงชื่อว่า อสังขารปรินิพพายี
ผู้ปรินิพพานโดยไม่ต้องมีสังขารอื่นช่วยกระตุ้นเตือน.
พระอนาคามีบุคคล ผู้ทำกิเลสทั้งหลายให้สิ้นไปโดยมีสังขาร
อื่นช่วยกระตุ้นเตือนคือต้องประกอบด้วยความเพียรแล้วปรินิพพาน
เพราะเหตุนั้นจึงชื่อว่า สังขารปรินิพพายี ผู้ปรินิพพาน โดยต้อง
มีสังขารอื่นช่วยกระตุ้นเตือน.
บทว่า คจฺฉํ ความว่า ป่าอันปราศจากอารักขา. บทว่า
ทายํ ความว่า ป่าอันมีอารักขา คืออันท่านให้เพื่อประโยชน์แก่การ
อภัยแล้ว. คำที่เหลือในบทเหล่านี้มีอรรถง่ายทั้งนั้น. ในพระสูตร
นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสถึงพระอริยบุคคลทั้งหลาย ดังนี้แล.
จบ อรรถกถาปุริสอาทิผิด อักขระคติสูตรที่ ๒
 
๓๗/๕๒/๑๖๖

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก