๔. คิริทัตตชาดก
ว่าด้วยการเอาอย่าง
[๒๑๗] (พระโพธิสัตว์กราบทูลพระราชาว่า) ม้า
ชื่อปัณฑวะของพระเจ้าสามะ ถูกคนเลี้ยงชื่อ
คิริทัตประทุษร้าย จึงละปกติเดิมของตน ศึกษา
เอาอย่างคนเลี้ยงม้านั่นเอง.
[๒๑๘] ถ้าบุรุษผู้บริบูรณ์ด้วยอาการอันงดงาม
สมควรแก่ม้านั้น ตบแต่งร่างกายงดงาม จับจูง
ม้านั้นที่บังเหียนพาเวียนไปรอบ ๆ สนามม้าไซร้
ไม่ช้าเท่าไร ม้านี้ก็จะละความเป็นกระจอกเสีย
ศึกษาเอาอย่างบุรุษนั้นเทียว.
จบ คิริทัตตชาดกที่ ๔
อรรถกถาคิริทัตตอาทิผิด ชาดก ที่ ๔
พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันทรงปรารภ
ภิกษุคบพวกผิดรูปหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า
ทูสิโต คิริทตฺเตน ดังนี้. เรื่องราวกล่าวไว้แล้วในมหิลามุขชาดก
ในหนหลัง.
ในเรื่องนี้พระศาสดาตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุ
นี้คบพวกผิดมิใช่ในบัดนี้เท่านั้น แม้เมื่อก่อนภิกษุนี้ก็คบพวกผิด
ว่าด้วยการเอาอย่าง
[๒๑๗] (พระโพธิสัตว์กราบทูลพระราชาว่า) ม้า
ชื่อปัณฑวะของพระเจ้าสามะ ถูกคนเลี้ยงชื่อ
คิริทัตประทุษร้าย จึงละปกติเดิมของตน ศึกษา
เอาอย่างคนเลี้ยงม้านั่นเอง.
[๒๑๘] ถ้าบุรุษผู้บริบูรณ์ด้วยอาการอันงดงาม
สมควรแก่ม้านั้น ตบแต่งร่างกายงดงาม จับจูง
ม้านั้นที่บังเหียนพาเวียนไปรอบ ๆ สนามม้าไซร้
ไม่ช้าเท่าไร ม้านี้ก็จะละความเป็นกระจอกเสีย
ศึกษาเอาอย่างบุรุษนั้นเทียว.
จบ คิริทัตตชาดกที่ ๔
อรรถกถา
พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันทรงปรารภ
ภิกษุคบพวกผิดรูปหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า
ทูสิโต คิริทตฺเตน ดังนี้. เรื่องราวกล่าวไว้แล้วในมหิลามุขชาดก
ในหนหลัง.
ในเรื่องนี้พระศาสดาตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุ
นี้คบพวกผิดมิใช่ในบัดนี้เท่านั้น แม้เมื่อก่อนภิกษุนี้ก็คบพวกผิด
๕๗/๒๑๘/๑๙๒
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น