วันเสาร์, มกราคม 01, 2565

Mano

 
จัดถวายของเคี้ยวเป็นต้น ปูอาสนะ ตั้งน้ำฉันต้อนรับสงฆ์นำมาให้นั่งเหนือ
อาสนะที่ปูไว้ เกิดฉันทะ อุตสาหะ ทำการขวนขวาย ชื่อว่าเมตตาวจีกรรม.
สำหรับภิกษุลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ ปฏิบัติสรีระ และทำวัตรที่ลานพระเจดีย์เป็นต้น
นั่งเหนืออาสนะอันสงัดคิดว่า ขอภิกษุทั้งหลายในวัดนี้ จงมีสุข ไม่มีเวร ไม่
เบียดเบียนกันเป็นต้น ชื่อว่าเมตตามโนกรรม. สำหรับคฤหัสถ์คิดว่า ขอพระ-
ผู้เป็นเจ้า จงมีสุข ไม่มีเวร ไม่เบียดเบียนกัน ชื่อว่าเมตตามโนกรรม.
บทว่า อาวิ เจว รโห จ ได้แก่ในที่ต่อหน้าและลับหลัง. ในบทนั้น
การร่วมกันในจีวรกรรมเป็นต้น สำหรับภิกษุทั้งหลาย ชื่อว่าเมตตากายกรรม
ต่อหน้า. แต่สำหรับพระเถระ สามีจิกรรมทั้งหมด แม้ต่างโดยการล้างเท้าและ
พัดวีเป็นต้น ก็ชื่อว่าเมตตากายกรรมต่อหน้า. ไม่ทำการดูหมิ่นในภิกษุเหล่านั้น
แล้วเก็บงำสิ่งของมีเครื่องไม้เป็นต้น ที่แม้ภิกษุ ๒ ฝ่ายเก็บไว้ไม่ดี เหมือนอย่าง
ที่ตนเก็บไว้ไม่ดี ชื่อว่าเมตตากายกรรมลับหลัง. การกล่าวยกย่องอย่างนี้ว่า
ท่านพระเทวเถระ พระติสสเถระ. ชื่อว่าเมตตาวจีกรรมต่อหน้า. การที่ภิกษุ
สอบถามถึงผู้ที่ไม่มีอยู่ในวัด กล่าวถ้อยคำที่น่ารักว่า พระเถระไปไหน พระ
ติสสเถระไปไหน เมื่อไรจักมาดังนี้ ชื่อว่าเมตตาวจีกรรมลับหลัง การลืมตา
ที่ผ่องใสด้วยความหวังดีและความห่วงใย มองดูด้วยหน้าที่ผ่องใส ชื่อว่าเมตตา
มโนกรรมต่อหน้า. การตั้งใจว่า ขอท่านพระเทวเถระ พระติสสเถระ จงเป็น
ผู้ไม่มีโรค ไม่มีอาพาธ ชื่อว่าเมตตามโนอาทิผิด สระกรรมลับหลัง.
บทว่า ลาภา ได้แก่ปัจจัยที่ได้มา มีจีวรเป็นต้น. บทว่า ธมฺมิกา
ความว่า เว้นมิจฉาชีพต่างด้วยการหลอกลวงเป็นต้น เกิดด้วยภิกขาจารวัตร
โดยธรรมโดยเสมอ. บทว่า อนฺตมโส ปตฺตปริยาปนฺนมตฺตมฺปิ ความว่า
โดยอย่างต่ำที่สุด แม้เพียงภิกษา ๒-๓ ทัพพีที่เนื่องในบาตร คือที่อยู่ภายใน
บาตร. ในคำว่า อปฺปฏิวิภตฺตโภคี นี้ ปฏิวิภัตตะ มี ๒ อย่าง คือ อามิส-
 
๑๓/๑๖๒/๓๕๙

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก