วันจันทร์, มกราคม 03, 2565

Saat

 
บาทคาถาว่า สมาธินา เตน สโม น วิชฺชติ ความว่า รูปาวจร-
สมาธิ หรืออรูปาวจรสมาธิไร ๆ ที่จะเสมอด้วยสมาธิที่ให้ผลในลำดับ (มรรค
สมาธิ) อันสะอาดอาทิผิด อักขระ ซึ่งพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐที่สุด ทรงสรรเสริญแล้วนั้น
ย่อมไม่มี
ถามว่า เพราะเหตุไร ?
ตอบว่า เพราะแม้ท่านผู้อุบัติแล้วในพรหมโลกนั้น ๆ เพราะเหตุที่
ได้เจริญรูปาวจร และอรูปาวจรสมาธิเหล่านั้นแล้ว ก็ยังมาอุบัติในอบายภูมิทั้ง
หลายมีนรกเป็นต้นได้อีก และเพราะเหตุที่พระอริยบุคคลเป็นผู้เพิกถอนการ
เกิดในภพทั้งปวงเสียได้ เพราะท่านได้เจริญอบรมอรหัตสมาธินี้แล้ว เพราะ
เหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสไว้แม้ในหว่างแห่งพระสูตร ว่า ภิกษุ
ทั้งหลาย ธรรมทั้งหลาย ที่เป็นสังขตะมีประมาณเท่าใด อริยมรรคมีองค์ ๘
เรากล่าวว่าเป็นเลิศกว่าธรรมเหล่านั้น.
พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นตรัสความที่อานันตริกสมาธิ (อรหัตมรรค
สมาธิ) เป็นสมาธิที่ไม่เสมอกับสมาธิเหล่าอื่นอย่างนี้แล้ว บัดนี้ทรงอาศัยความ
ที่ธรรมรัตนะคือมรรค เป็นรัตนะที่ไม่เสมอ (กับรัตนะเหล่าอื่น) โดยนัยก่อน
นั้นแล จึงทรงประกอบสัจวาจา ว่า
อิทมฺปิ ธมฺเม รตนํ ปณีตํ
เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ
เนื้อความแห่งพระคาถานั้น อันบัณฑิตพึงทราบโดยนัยอันข้าพเจ้า
กล่าวแล้วในตอนต้นนั้นแล อาชญาแห่งพระคาถาแม้นี้ อันอมนุษย์ทั้งหลาย
ในแสนโกฏิจักรวาลได้รับแล้ว.
๑. อัคคัปปสาทสูตร อัง. จตุกฺก. ๒๑/ ข้อ ๓๔.
 
๔๗/๓๑๔/๔๕

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก