และเราจับสลากแล้ว ถวายข้าวสุกที่
หุงด้วยน้ำนม แก่พระเถระทั้งหลาย ผู้แสวงหา
คุณใหญ่ ผู้เป็นสาวกของพระผู้แกล้วกล้ากว่า
นรชนพระองค์นั้นแหละ
ในภัทรกัปนี้ พระพุทธเจ้าผู้เป็นพงศ์พันธ์
ของพรหม มีพระยศใหญ่ ประเสริฐกว่านัก-
ปราชญ์ พระนามว่า กัสสปะ ได้เสด็จอุบัติขึ้นแล้ว
พระองค์ทรงยังศาสนธรรมให้รุ่งโรจน์ ข่มขี่
เดียรถีย์ผู้หลอกลวงเสีย ทรงแนะนำเวไนยสัตว์
แล้ว เสด็จปรินิพพานพร้อมทั้งพระสาวก
ครั้นเมื่อพระโลกนาถเจ้าพร้อมทั้งพระ-
สาวกปรินิพพานแล้ว ครั้นเมื่อศาสนอาทิผิด อักขระ ธรรม กำลัง
จะสิ้นสูญอันตรธาน ทวยเทพและมนุษย์พากัน
สลดใจ สยายผม มีหน้าเศร้า คร่ำครวญว่า
ดวงตาคือธรรมจักดับแล้ว เราจักไม่ได้
เห็นท่านที่มีวัตรดีงามทั้งหลาย เราจักไม่ได้ฟัง
พระสัทธรรม น่าสังเวช เราเป็นคนมีบุญน้อย
ครั้งนั้น พื้นปฐพีทั้งหมดนี้ ทั้งใหญ่ทั้ง
หนาได้ไหวสะเทือน สาครสมุทรพูดได้ แม่น้ำ
ร้องอย่างน่าสงสาร
หุงด้วยน้ำนม แก่พระเถระทั้งหลาย ผู้แสวงหา
คุณใหญ่ ผู้เป็นสาวกของพระผู้แกล้วกล้ากว่า
นรชนพระองค์นั้นแหละ
ในภัทรกัปนี้ พระพุทธเจ้าผู้เป็นพงศ์พันธ์
ของพรหม มีพระยศใหญ่ ประเสริฐกว่านัก-
ปราชญ์ พระนามว่า กัสสปะ ได้เสด็จอุบัติขึ้นแล้ว
พระองค์ทรงยังศาสนธรรมให้รุ่งโรจน์ ข่มขี่
เดียรถีย์ผู้หลอกลวงเสีย ทรงแนะนำเวไนยสัตว์
แล้ว เสด็จปรินิพพานพร้อมทั้งพระสาวก
ครั้นเมื่อพระโลกนาถเจ้าพร้อมทั้งพระ-
สาวกปรินิพพานแล้ว ครั้นเมื่อ
จะสิ้นสูญอันตรธาน ทวยเทพและมนุษย์พากัน
สลดใจ สยายผม มีหน้าเศร้า คร่ำครวญว่า
ดวงตาคือธรรมจักดับแล้ว เราจักไม่ได้
เห็นท่านที่มีวัตรดีงามทั้งหลาย เราจักไม่ได้ฟัง
พระสัทธรรม น่าสังเวช เราเป็นคนมีบุญน้อย
ครั้งนั้น พื้นปฐพีทั้งหมดนี้ ทั้งใหญ่ทั้ง
หนาได้ไหวสะเทือน สาครสมุทรพูดได้ แม่น้ำ
ร้องอย่างน่าสงสาร
๗๒/๑๒๔/๒๕๘
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น